ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เส้นทางก้าวเข้าสู่สนาม F1 ของแซนดี้ สตูวิค

กีฬา
7 ต.ค. 56
15:33
200
Logo Thai PBS
เส้นทางก้าวเข้าสู่สนาม F1 ของแซนดี้ สตูวิค

การก้าวสู่สังเวียนรถสูตร 1 เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะหากไม่มีผู้สนับสนุน มีฝีมืออย่างเดียวไปไม่ถึงแน่นอน แซนดี้ สตูวิค ก้าวสู่วงการนักแข่งรถด้วยวัยที่น้อยมาก ซึ่งการผลักดันของครอบครัวนับเป็นจุดเริ่มต้นทำให้โอกาสของเขาเปิดกว้างจนเข้าสู่รายการ ยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3

การก้าวสู่สังเวียนรถสูตร 1 ของ แซนดี้ สตูวิค เริ่มจากการสนใจการแข่งขันรถตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะได้ยินเพื่อนๆ ในเนอร์สเซอรี่ขณะนั้นเล่าให้ฟัง และทำให้เขาสนใจเข้าสู่สนามโกคาร์ต จนได้แข่งขันครั้งแรกเมื่ออายุ 6 ขวบ โดยคุณพ่อซึ่งเป็นวิศวกร และเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งสนับสนุนอย่างจริงจัง

และในปี 2008 ขณะที่อายุ 13 ปี แซนดี้คว้าแชมป์โกคาร์ตเอเชีย และนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสู่วงการรถแข่งอย่างจริงจัง โดยเริ่มฤดูกาล 2010 ในการแข่งขัน เอเชี่ยน ฟอร์มูล่า เรโนลด์ 2011 แข่งในรายการ ฟอร์มูล่า ยูโร เนโนลด์ คัพ 2012 แข่งรายการฟอร์มูล่า นอร์ทเธิร์น ยูโรเปี้ยน คัพ และ เข้าสู่รายการ ยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 ในฤดูกาลนี้

กว่าจะมาถึงฟอร์มูล่า 3 คุณพ่อของแซนดี้ต้องควักเงินส่วนตัวไปแล้วหลายล้านบาท แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้มีผู้สนับสนุนเริ่มเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น เส้นทางของนักแข่งกว่าจะเดินทางไปถึงระดับเอฟ 1 ต้องอาศัยเงินทุนปูทางเป็นสำคัญ นอกจากนั้นการแข่งขันแต่ละรายการแม้จะได้แชมป์แต่ไม่เคยได้รับเงินรางวัล จนกว่าจะถึงเวลาที่แมวมองเอฟ 1 เห็น และดึงไปร่วมทีมซึ่งเป็นความไฝ่ฝันของนักขับทุกคน

ในการทดสอบสนามวันที่ 5-6 พฤศจิกายนที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของแซนดี้ เพราะทีมระดับ จีพี 2 ที่เป็นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนจะถึงเอฟ 1 กำลังจับตามอง หากผลงานเข้าตาทีมดังแซนดี้จะเข้าใกล้เอฟ 1 ไปอีกก้าว

แต่การทดสอบสนามยังต้องใช้เงินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องให้กับทีมต้นสังกัดเพื่อส่งไปทดสอบและดูแลแซนดี้ตลอด 2 วัน ซึ่งรวมถึงค่าช่างและทีมงานในการปรับแต่งเครื่องยนต์ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ ค่าจ้างโค้ช และเทรนเนอร์ ค่าขนส่งรถที่จะใช้ ตลอดจนดูแลอาหารและที่พัก

อย่างไรก็ตามแซนดี้เป็นนักขับที่มาแรงในระดับ ยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 ในปีนี้ เพราะเพียงฤดูกาลแรกก็สามารถคว้าตำแหน่งผู้นำ โดยพัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็วขึ้นมาเทียบชั้นกับเอ็ด โจนส์ ที่มีประสบการณ์มาก่อนหลายฤดูกาล


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง