นิคมฯอมตะนคร จ.ชลบุรี เตรียมรับน้ำท่วมอีกระลอก
สภาพการจราจรภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี ติดขัดหลังฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน จากอิทธพลพายุนารี ทำให้ระดับน้ำท่วมผิวจราจร 30 - 40 ซม. บริเวณเฟส 1 - 5 ขณะที่เฟส 7 - 9 เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออก เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำจาก อ.พนัสนิคม อีกระลอก
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วางมาตรการรับมือไว้แล้ว แต่หากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสูงขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อโรงงาน จึงได้วางแผนรับมือฉุกเฉิน ด้วยการจัดเตรียมบิ๊กแบ๊ค หรือกระสอบทรายขนาดใหญ่ไว้ 500 ใบ สำหรับป้องกันน้ำเข้าโรงงาน และหากมีน้ำมากในช่วงน้ำทะเลหนุน จะเร่งระบายน้ำ ด้วยการสูบข้ามประตูระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยตรง โดยมั่นใจว่าจะระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ทัน
ส่วนที่ จ.ระยอง อ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง ต้องเร่งระบายน้ำออก หลังปริมาณน้ำเกินความจุ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านกว่า 300 หลัง ใน อ.บ้านค่าย อ.ปลวกแดง และ อ.เมือง ระดับน้ำสูง 0.30 - 2 เมตร พื้นที่เกษตร จมอยู่ใต้น้ำจำนวนมาก ขณะที่ชลประทาน คาดว่า สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน เพราะระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็ว
เช่นเดียวกับพื้นที่ อ.กบินทบุรี จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 30 ซม. ส่งผลให้ชุมชนตลาดเก่า ที่ปริมาณน้ำเริ่มลดลงก่อนหน้านี้ กลับสูงขึ้นท่วมผิวถนนเกือบ 1 เมตร ส่วนอ.ประจันตคาม เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำจากเขาใหญ่ ที่คาดว่าจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ใน ต.โพธิงาม และ ต.ประจันตคาม มากขึ้น
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 นำเรือและรถยีเอ็มซีเข้าช่วยเหลือประชาชนที่เข้า-ออกหมู่บ้าน ทั้ง 5 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังฝนตกหนักจากอิทธิพายุนารี ทำให้น้ำท่วมบ้านสูงกว่า 0.50 เซนติเมตร ชาวบ้านกว่า 500 ครอบครัวเดือดร้อน
เช่นเดียวกับที่ จ.เลย ที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกดังกล่าว เนื่องจากลมกระโชกแรง ทำให้นาข้าวใน ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมือง ถูกแรงลมพัดเสียหาย
ขณะที่ จ.ร้อยเอ็ด นายอำเภอจังหารพร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบพนังกั้นน้ำบ้านคุยค้อ ต.ดินดำ หลังพบว่าระดับน้ำแม่ชีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 20 ซม.โดยเกรงว่าน้ำจะกัดเซาะพนังกั้นน้ำ เบื้องต้นได้กำชับวิศวกร ให้เร่งก่อสร้างตามรูปแบบที่กำหนด
ขณะที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานปริมาณฝนในวันนี้ (17 ต.ค.) เฉลี่ยอยู่ที่ 40 -100 มม.ต่อวินาที โดยฝนตกมากที่ฝั่งธนบุรี บริเวณริมแม่น้ำของเขตสาทร วัดได้ 107.5 มม. เขตธนบุรี 105 มม. และ เขตทวีวัฒนา 103 มม.ต่อชั่วโมง
ส่วนพื้นที่น้ำท่วมขัง มีรายงานว่าตลอดทั้งวันมี 30 จุด ขณะนี้สามารถระบายได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงบางจุด ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและชุมชนติดคลอง เช่น คลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว เป็นต้น ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครได้สั่งลดบานประตูระบายน้ำลงแล้ว เพื่อเร่งพร่องน้ำในคลองพื้นที่กรุงเทพชั้นใน