ภาคตะวันออกยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังฝนตกต่อเนื่อง
น้ำจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติตาพระยา ยังหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเฉพาะที่ต.โนนหมากมุ่น และ ตำบลโคกสูง ที่บ้านเรือนและสถานที่ราชการหลายแห่ง ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตรแล้ว นอกจากนี้ กระแสน้ำที่ไหลเแรงยังกัดเซาะถนนเสียหายหลายจุด
ส่วนที่บ้านโอบายเจือน ฝั่งกัมพูชา ตรงข้ามบ้านหนองจานของไทย น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวกัมพูชาเดือดร้อนอย่างหนักไม่สามารถเดินทางข้ามาซื้อสินค้าฝั่งไทยได้ โดยจังหวัดสระแก้วถือว่าเป็นรอบที่ 4 แล้วที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะระบายลงคลองพระปรง เข้าสู่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต่อไป
ส่วนที่อ.เมืองปราจีนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ยังสูงกว่าตลิ่ง 45 เซนติเมตร ขณะที่ อ.ศรีมโหสถซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับอ.เมืองปราจีนบุรี พื้นที่การเกษตรกรยังมีน้ำท่วมสูง เนื่องจากอ.บ้านสร้าง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำสุดท้าย ยังคงมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ส่วนที่อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำยังสูงเกินระดับวิกฤติ 1 เมตร และอ.ประจันตคาม ยังคงมีน้ำท่วมที่ต.ประจันตคาม ต.บ้านหอย และต.เกาะลอย
ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.พานทอง จ.ชลบุรี ระดับน้ำลดลง 15-20 เซนติเมตร แต่ยังท่วมขังผิวจราจรเฟสที่ 7 ในบางจุด โรงงานประมาณ 17 แห่ง แจ้งให้พนักงานหยุดการผลิตในบางสายการผลิต เพื่อลดภาระในการเดินทางของพนักงานที่อยู่รอบนอกนิคม ซึ่งผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เชื่อว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน
ที่จ.ฉะเชิงเทรา น้ำจากอ.พานทอง จ.ชลบุรี ที่หลากมาตามทุ่ง และคลองชลประทาน ประกอบกับน้ำที่ระบายมาจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา ส่งผลให้พื้นที่อ.บางปะกง ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ในต.บางผึ้ง ต.เขาดิน และต.ท่าข้าม ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมสูง 30-60 เซนติเมตร เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำลงทะเลได้
ขณะที่ ตำรวจภูธรพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ต้องเร่งนำกระสอบทรายมาสร้างเป็นคันกั้นน้ำ บริเวณด้านหน้าสถานี และประตูทางเข้าห้องทำงาน หลังน้ำจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้าท่วมสถานีตำรวจ และมีระดับสูงขึ้น บางจุดท่วมสูงถึง 1 เมตร ซึ่งน้ำที่ท่วมสูงยังทำให้รถจักรยานยนต์ของกลางถูกน้ำท่วมเสียหาย