ปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาท
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.ร. เปิดเผยในฐานะอดีตปลัดกระทรวงการคลังว่า ได้ลงนามผลสรุปของคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ปีการผลิต 2554/55 และปี 2555/56 สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชี ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เสนอมาเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. และจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี รับทราบต่อไป
นายอารีพงศ์กล่าวว่า ในรายงานผลสรุป ไม่ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการมีความผิดปกติหรือไม่ แต่ยืนยันว่าในกระบวนการของคณะกรรมการปิดบัญชีนั้น มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ทั้งสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เพื่อดูแลไม่ให้มีผลกระทบต่อการเงินการคลังของประเทศ
ด้านน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ให้ข้อมูลว่าโครงการรับจำนำข้าวจะมีผลขาดทุนเฉลี่ยปีละ 200,000 ล้านบาท เป็นจำนวนใกล้เคียงกับที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ประมาณการไว้
ขณะที่ นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่าได้หารือกับบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดย่อม หรือ บสย. ให้เข้ามาช่วยค้ำประกันการกู้ยืมของโรงสี ที่มีหลักประกันไม่เพียงพอ เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการรับซื้อข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก และสีแปรเป็นข้าวสาร ซึ่งโรงสีต้องสำรองเงินไปบางส่วนก่อน และบางส่วนได้รับซื้อข้าวในโครงการมากจนทำให้สภาพคล่องลดลง