ผู้เลี้ยงช้างค้านร่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยาน พบซากลูกช้างลอยตายอยู่ที่แก่งผักหนามล้อม ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เบื้องต้น คาดสาเหตุลูกช้างเดินพลัดตกลงมา ขณะที่กลุ่มผู้เลี้ยงช้างจากทั่วประเทศเตรียมเดินทางคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับใหม่ ที่ให้อำนาจรัฐดูแลสวัสดิภาพ และคุมเข้มการค้างาช้าง โดยให้เหตุผลว่าไม่เป็นธรรมกับผู้เลี้ยงช้าง
กลุ่มผู้เลี้ยงช้างจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มทยอยเดินทางมาที่เพนียดคล้องช้างใน จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตามที่นัดหมายไว้ เพื่อเตรียมเดินทางชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) คัดค้านร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่ให้อำนาจเต็มแก่รัฐบาลในการกำกับดูแลช้าง นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยา ให้เหตุผลการเดินทางประท้วงครั้งนี้ว่า กลุ่มผู้เลี้ยงช้างเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการกำหนดให้รัฐสามารถยึดช้างได้ หากสภาพความเป็นอยู่ช้างไม่ดี หรือไม่พบหลักฐานการครอบครอง
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้เลี้ยงช้าง จ.ตรัง ที่เตรียมนำช้างใน ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ร่วมเคลื่อนไหว เพราะไม่เห็นด้วยกับการย้ายช้างที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยไปให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์และพันธุ์พืช เป็นผู้ดูแล เนื่องจากกฎหมายกรมอุทยานฯ มีความละเอียดอ่อน อาจส่งผลกระทบกับกลุ่มคนเลี้ยงช้าง พร้อมเพิ่มข้อเรียกร้องติดไมโครชิพ และทำตั๋วรูปพรรณช้างทุกเชือกทั่วประเทศ เพื่อสะดวกในการส่งเสริมการเที่ยว ป้องกันการลักลอบสวมทะเบียนช้าง และขอให้การเคลื่อนย้ายช้างไปเปิดแสดงโชว์แก่นักท่องเที่ยว หรือทำงานการชักลากไม้ยางพารารวดเร็วขึ้น
เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานฯ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 7 ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบซากลูกช้างที่บริเวณแก่งผักหนามล้อม ก่อนถึงแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี ประมาณ 2 กิโลเมตร จากการตรวจสอบพบว่าซากลูกช้างเป็นช้างเพศผู้ อายุประมาณ 8 เดือน โดยที่บริเวณขาขวาหลัง มีบาดแผลฉีกขาด เบื้องต้นคาดว่าลูกช้างตัวนี้น่าจะเดินตามแม่ช้างไปที่บริเวณต้นน้ำตกแก่งหินเพิง แต่เกิดเสียหลักขาพลัดตกลงไปในแง่หิน และถูกน้ำป่าจากเขาใหญ่พัดลงมาด้านล่างจนตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมขุดหลุม และทำการฝังกลบต่อไป