<"">
ในขณะนี้สังคมจับตาไปที่การเดินหน้ายกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการแปรญัตติเพื่อนิรโทษกรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากองค์กรที่แต่งตั้งที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารอย่าง คตส. ซึ่งก็จะครอบคลุมไปถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้หลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเริ่มแสดงจุดยืนยันอย่างชัดเจนโดยเตรียมที่จะเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าแล้ว ขณะที่ผู้ประสานงานที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอช ประจำประเทศไทย คัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอช ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีการที่จะมีการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่า ตามกติกาสากล หลักการในการนิรโทษกรรมนั้นจะต้องมีความจำเพาะเจาะจง ระบุลงไปชัดเจนว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะความผิดที่เป็นความผิดต่อชีวิต การล้มตาย จะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นหลักการที่องค์กรฮิวแมนไรท์วอชเสนอมายังรัฐบาลไทย และการเมืองต่างๆ ที่อยู่ในรัฐสภาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยร่างของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการนิรโทษกรรมแบบอิงกับเหตุการณ์ โดยบอกว่าผู้ชุมนุมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย คือบอกไว้แค่นั้น ตัวบุคคล และเหตุการณ์ แต่สิ่งที่ขาดหายไป คือการกระทำว่าการกระทำอะไรจะได้นิรโทษกรรม การกระทำอะไรจะไม่ได้นิรโทษกรรม ซึ่งตนเองได้บอกว่าทำร่างของนายวรชัย ให้ชัดเจนกว่านี้ดีกว่านี้ได้มั้ย กลายเป็นว่าพอแปรญัตติออกมาเลวร้ายมากกว่าเดิม กลายเป็นตอนนี้เหมายกเข่งเลย คือเอาฆาตกรมีค่าเท่ากับผู้ชุมนุม คนที่แสดงออกทางการเมือง ซึ่งกำลังโดนคดี กำลังติดคุกอยู่ และมีความตั้งใจจะช่วย เอาคนเหล่านี้มาเท่ากับฆาตกรที่ทำให้บาดเจ็บล้มตาย
สำหรับกระแสต่อต้านที่เกิดขึ้นนั้น ในตอนนี้เป็น 2 ส่วนผสมกันระหว่างความขัดแย้งทางการเมือง และการไม่เห็นด้วยกับทางหลักการ โดยมีการขยายผลไปถึงเรื่องของ 1. การที่จะชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกนำเอามาโยงกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปแล้ว 2. เป็นเรื่องของหลักการว่าอย่างกรณีของกลุ่มญาติ นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน้องเกด หรือ น.ส.กมนเกด ฮัคฮาด มีการเคลื่อนไหวในเชิงหลักการว่าถ้าเกิดทำให้ฆาตกรลอยนวลไปแล้ว จะเกิดบรรทัดฐานของการทำผิดไม่ต้องรับผิด ย้ำแล้วย้ำอีกในประเทศไทย และถ้าเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในครั้งถัดไป ทุกคนจะเกิดความชินว่าฆ่ากันอีกก็ได้ แล้วเดี๋ยวไปลุ้นนิรโทษกรรม เราต้องยุติวงจรนี้ด้วยการที่บอกว่าร่างกฎหมายแบบเหมายกเข่งจะต้องถูกปฏิเสธ และจะต้องมีการเขียนกฎหมายใหม่ให้มีความรัดกุมชัดเจนว่าฆาตกรนั้นจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม
ส่วนการที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมองว่าหากออกเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ได้ ก็เป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ไปนั้น ท่าทีของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก โดยเท่าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธมาตลอดว่าความพยายามที่จะนิรโทษกรรมในส่วนของรัฐบาล รัฐบาลก็ทำไป เรื่องที่เป็นเรื่องของการปรองดองนั่นคือส่วนที่รัฐบาลทำ แต่ถ้าเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของรัฐสภา รัฐบาลไม่เกี่ยว แต่สิ่งที่นายจารุพงศ์ พูดเมื่อวานนี้ เอา 2 ส่วนมาโยงเข้าด้วยกัน คราวนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะของฝ่ายบริหาร และพรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นเสียงข้างมากในฝ่ายนิติบัญญัติกำลังเดินเกมร่วมกัน คือว่าจะอย่างไรก็ต้องมีการนิรโทษกรรมแบบเหมายกเข่งสุดซอย ถ้าใช้กระบวนการในรัฐสภาไม่สำเร็จ ก็จะใช้กระบวนการบริหารออกเป็นพระราชกำหนด เพราะฉะนั้น ความรับผิดชอบในส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา ในปีกของรัฐบาล พยายามเลี่ยงความรับผิดชอบมาโดยตลอด ตอนนี้เลี่ยงไม่ได้แล้ว เพราะถือว่าหัวหน้าพรรคออกมาพูดอย่างเปิดเผย และเป็นทางการ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นเนื่องจากเป็นผลมาจากการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องรับไปเต็มๆ ทั้งในส่วนของรัฐบาล และที่อยู่ในเสียงข้างมากของรัฐสภา
นายสุนัย กล่าวถึงเหมือนกับว่าเป็นการเติมเชื้อไฟ หรือว่าทำให้ความขัดแย้งนั้นปะทุเร็วยิ่งขึ้นหรือไม่ว่า มองว่าเป็นลักษณะของการเติมเชื้อไฟอีกประการหนึ่ง แต่อีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญมากกว่า คือว่าอย่างที่ฮิวแมนไรท์วอชระบุไว้กฎหมายฉบับนี้ที่แปรญัตติออกมาล่าสุด เป็นการทำให้ฆาตกรมือเปื้อนเลือดลอยนวลพ้นผิดไปได้ รัฐบาล และฝ่ายที่เป็นเสียงข้างมากในสภากำลังส่งเสริมวัฒนธรรมที่ทำให้ฆาตกรมือเปื้อนเลือดพ้นผิดลอยนวล นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างเด็ดขาด ในส่วนของร่างปัจจุบันมีปัญหาว่าตีความเกินหลักการที่ผ่านมาในวาระแรก ถ้าเกิดย้อนกลับไปร่างของนายวรชัย ร่างของนายวรชัยก็มีจุดอ่อนอย่างเช่นที่ฮิวแมนไรท์วอชแนะไว้ ทางผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติแนะไว้ว่าร่างของนายวรชัยมีจุดอ่อน ซึ่งจะต้องแก้ คือระบุการกระทำเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าถอนกลับไปร่างของนายวรชัย จะต้องทำร่างของนายวรชัยให้ดีขึ้นด้วยการที่ระบุชัดเจนว่าการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง การกระทำที่เป็นการทำให้เกิดการเสียชีวิตจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม ต้องเติมเงื่อนไขนี้ไปด้วย
ทั้งนี้ หากถอยไปร่างของนายวรชัยแล้วทำร่างของนายวรชัยให้รัดกุม ระบุพฤติกรรมเข้าไปด้วย คือนอกจากเหตุการณ์ ตัวบุคคล แล้วระบุพฤติกรรมเข้าไปด้วย อาจจะช่วยทำให้การนิรโทษกรรมมีความหมายเป็นการนิรโทษกรรมให้กับมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในทางการเมือง แล้วจำเป็นจะต้องได้รับความช่วยเหลือเยียวยา ได้รับการนิรโทษกรรมโดยที่ฆาตกรยังต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป จะเป็นการวางบรรทัดฐานใหม่ในสังคมไทยว่าจะทำให้ 1. เชื้อของความไม่พอใจซึ่งมันก่อตัวมันพอจะปรับชนวนได้ 2. หลักการนิติธรรม นิติรัฐ ซึ่งเราจะต้องค้ำจุนไว้มันยังสามารถคงอยู่ในประเทศไทย 3. มันจะทำให้ประวัติศาสตร์ของฆาตกรที่ก่อเหตุทุกครั้ง แล้วก็ลุ้นเอานิรโทษกรรมทุกครั้งจบลงเสียทีในประเทศไทย