ฝ่ายค้านยันพ.ร.บ.นิรโทษฯเข้าข่ายเป็นกม.การเงิน

ฝ่ายค้านยืนยันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงิน โดยเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิยฉัย หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ประธานกรรมาธิการยืนยัน กฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายการเงิน จึงไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับรองและไม่เป็นผลให้ต้องคืนเงินให้ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ยืนยันว่าไม่มีการขยายเวลาให้ผู้ที่แปรญัตติ ที่ไม่สามารถมาชี้แจงได้ตามเวลาที่กรรมาธิการฯกำหนด ไว้ 2 วัน และจะไม่พิจารณาทบทวนหรือแก้ไขมติของกรรมาธิการฯ ที่ได้พิจารณารายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯทั้ง 7 มาตรา ที่ดำเนินการแล้วเสร็จไปอย่างรอบคอบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และย้ำว่าร่างกฎหมายไม่ใช่กฎหมายการเงิน

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ กรรมาธิการฯเสียงข้างน้อย กล่าวว่า ร่างกฎหมายที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เสนออาจจะกระทบต่อรัฐธรรมนูญ และกระทบสิทธิมนุษยชน โดยรัฐมีอำนาจออกกฎหมายนิรโทษกรรมในคดีอาญา และทุจริตคอรัปชั่นรวมไปถึงล้มล้างคดีของคตส. ซึ่งจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดคดีและได้รับเงินที่ถูกริบคืน รวมทั้งอาจเรียกดอกเบี้ยคืนได้ด้วย ดังนั้นหากไม่ต้องการให้เกิดการต่อต้านหรือคัดค้าน ต้องตัดมาตราดังกล่าวออก และเขียนให้ชัดเจนว่าจะนิรโทษกรรมให้บุคคลใดบ้าง

ด้านวิปฝ่ายค้านยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นกฎหมายการเงินอย่างชัดเจน เพราะเข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 143 ที่หมายความถึงร่างพระราชบัญญัติที่ผูกพันทรัพย์สินของรัฐ ดังนั้นวิปฝายค้านมีมติคัดค้านการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด และเมื่อผ่านความเห็นชอบในวาระ 3 แล้ว จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยตีความตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 โดยมั่นใจว่าศาลจะรับไว้พิจารณา

เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่น้องเกด พร้อมกลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมืองปี 53 ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมาธิการฯ ผ่านนายวิชาญ มีนชัยนันท์ แสดงจุดยืนคัดค้านมติของกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ ในการปรับแก้ถ้อยคำ เพราะเชื่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้ พันตำรวจโททักษิณ เพื่อแลกกับการนิรโทษกรรมผู้สั่งการสลายการชุมนุมทางการเมือง

วันนี้ (25 ต.ค.) กรรมาธิการฯจะเปิดให้ผู้เสนอคำแปรญัตติชี้แจงต่ออีกหนึ่งวัน ก่อนที่จะมีการจัดทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมสภาฯและพิจารณาในวาระที่ 2 ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งการปรับแก้ถ้อยคำเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในชั้นของกรรมาธิการเสียงข้างมาก หลายฝ่ายมองตรงกันว่า เป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ซึ่งจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ไม่เห็นด้วยหลากหลายกลุ่ม ทำให้มีความเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างชัดเจน เริ่มจากกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ที่จะประเมินกำลังก่อนเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้

ส่วนวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมนี้ กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง นัดชุมนุมกันบริเวณราชประสงค์ เช่นเดียวกับ กลุ่มกรีนที่นัดชุมนุมที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่องค์กรต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น จะอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมคดีคอร์รัปชั่น ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เตรียมนัดชุมนุมใหญ่คัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 6 พฤศจิกายน และ 7 องค์กรผนึกกำลังสร้างคุณธรรมจริยธรรมแผ่นดิน นำโดยนายวิชา มหาคุณ และนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ จะนัดประชุมใหญ่ วันที่ 7 พฤศจิกายน