วันนี้ (19 พ.ค.2558) เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางถึงยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อเตรียมเข้าร่วมในการพิจารณคดีนัดแรกในฐานะจำเลยในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในข้อกล่าวหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวอันเหตุให้เกิดทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐกว่า 600,000 ล้านบาท จำนำข้าว โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยบางส่วนและผู้สนับสนุนรอให้กำลังใจก่อนการเข้าร่วมพิจารณาคดี
ตามกำหนดการองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนจะออกนั่งบัลลังก์ในเวลาประมาณ 09.30 น.เพื่อสอบพยานของคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย หลังศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยศาลจะสั่งสอบโจทก์และจำเลยว่าต่างฝ่ายต่างมีพยานที่ต้องเข้าเบิกความไต่สวนข้อเท็จจริงต่อศาลเป็นพยานบุคคลกี่คนและเป็นเอกสารกี่หน้า และตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้กำหนดให้จำเลยต้องมาปรากฎตัวต่อศาล ซึ่งนอกจากจะเป็นการแจ้งต่อศาลถึงพยานบุคคลและเอกสารในการต่อสู้แล้วคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต้องรับฟังคำฟ้องเพื่อแก้ต่างความผิดตามพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหา
รวมถึงการแสดงเจตจำนงในการขอประกันตัวต่อศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาและกำหนดเงื่อนไขต่อจำเลย โดยเฉพาะคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้เกิดข้อเปรียบเทียบถึงความเหมือน-ต่าง ของพฤติการณ์ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีว่าจะมีการหลบหนีไปต่างประเทศ
"หวังว่าศาลจะให้ความยุติธรรมและพิจารณาทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน และขอความกรุณาและความร่วมมือ เนื่องจากขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลแล้ว ก็ขอความกรุณาอย่าชี้นำและวิพากษณ์วิจารณ์" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
ในการพิจารณาคดีครั้งแรกองค์คณะผู้พิพากษาจะอ่านคำฟ้องต่อหน้าโจทก์และจำเลย หลังโจทก์และจำเลยรับทราบศาลจะกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีเพื่อให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคล ก่อนที่จะเริ่มนัดหมายกระบวนการไต่สวน โดยมีรายงานว่าอัยการเตรียมพยานบุคคลไว้ 10 ปาก เช่นเดียวกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เตรียมพยานบุคคลไว้ 10 ปากเช่นเดียวกัน
การพิจารณาคดีในครั้งนี้มีการเตรียมรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยจัดกำลังตำรวจในพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยกว่า 250 นาย พร้อมทั้งมีกองกำลังควบคุมฝูงชนกว่า 300 นายเพื่อสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งจากการข่าวไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ทั้งนี้ศาลไม่อนุญาตให้บันทึกภาพห้องดำเนินคดีทั้งก่อนและระหว่างดำเนินคดีรวมถึงจำกัดจำนวนสื่อมวลชนที่เข้ารับฟังคดีด้วย