ชีวิตเลข 8 ของ
หากเอ่ยชื่อเพลงดัง ทั้ง บัวขาว ข้องจิต ชั่วฟ้าดินสลาย หลายคนก็พอนึกหน้า นักร้องหญิงเสียงใส "พูลศรี เจริญพงษ์" กันได้ มีช่วงชีวิตหนึ่งที่หันหลังให้อาชีพนักร้อง เพราะปัญหาชีวิต และศึกษาธรรมะจนลึกซึ้ง จนถึงวันนี้วัย 80 ปีแล้ว ยังแข็งแรง และทำหน้าที่พุทธศาสนิกชน ถ่ายทอดบทเพลงธรรมคีตามากว่าค่อนชีวิตแล้ว
นำเนื่้อหาธรรมะฟังง่าย และถ่ายทอดคำบริกรรมภาวนา ด้วยน้ำเสียงใสกังวาลในเพลงความไม่เที่ยง กว่า 50 ปี ที่นักร้องหญิง พูลศรี เจิรญพงศ์ ขับร้องบทเพลงธรรมะ และเพลงเพื่อบำบัดผู้ป่วย หลังออกจากเส้นทางดนตรีไปพักใหญ่ เพื่อเดินหน้าศึกษาธรรมะอย่างจริงจังที่วัดโพธิ์เมื่อหลายสิบปีก่อน
ก้าวเข้าเลข 8 มีป่วยไข้บ้างเป็นธรรมดา แต่ศิลปินหญิงอดีตนักร้องวงสุนทราภรณ์ ยังมุ่งมั่นทำงาน คุมตัดต่อ ร้องเพลง และยังเขียนบทธรรมมะสอดแทรกไว้ตลอดรายการการเพลงประทับจิต ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์มานานถึง 18 ปี
ชักชวนนักร้องรุ่นราวคราวเดียวกัน มาถ่ายทอดบทเพลงทางธรรมอยู่เป็นประจำ และยังนำสองสิ่งที่รัก คือ การศึกษาธรรมมะ มารวมกับแนวทางถนัด คือ การได้ร้องเพลง จากเพียงศึกษา เป็นปฎิบัติ เข้าใจ และบอกต่อข้อคิดได้ เป็นสิ่งที่พูนศรีทำหน้าที่ในฐานะพุทธศาสนิกชนอยู่เสมอ ทั้งในมุมนักเขียน และนักจัดรายการวิทยุ ซึ่งอีกคำสอนที่น้อมนำมาบอกต่อเพราะทำง่าย ได้จริงในชีวิต คือคำสอนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก
ผลงานธรรมคีตา ที่บางชุดหายาก หรือเหลือเพียงก็อปปี้เดียวแล้ว ทั้งสวดมนต์แปล ธรรมธารา ของมูลนิธิเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย แต่ที่พูลศรี ยังคงหมั่นอัดเสียงอยู่เสมอ คือ การอ่านทำนองสรภัญญะประกอบดนตรี ที่ผู้ฟังให้ความสนใจ
นอกจากนี้ยังมีงานเพลงไทยเดิม ที่ร่วมกับวงดนตรีสมาน กาญจนะผลิน เพื่อหารายได้บำรุงพระศาสนา ถึงจะขับร้องเพลงธรรมะ มากว่าค่อนชีวิต แต่คุณพูลศรีวัย 80 ปี ไม่ได้ปิดกั้น เพราะเชื่อว่าหากใช้วิจารณญานในการฟัง ทุกบทเพลงล้วนเป็นธรรมคีตา ที่สอนใจได้ทั้งผู้ฟัง และผู้ที่ขับขานเอง