ส.ส.ประชาธิปัตย์ ชี้ที่ประชุมกมธ.นิรโทษกรรมเร่งรัด-ไม่ชัดเจนกลุ่มได้รับประโยชน์
กมธ.นิรโทษกรรม เสียงข้างน้อย พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตั้งข้อสังเกต ที่ประชุมกมธ. เร่งรัดออกกฏหมาย, บุคคลได้รับประโยชน์ ไม่ชัดเจน ชี้ อาจส่งผลต่อการบังคับใช้-ปชช.ต่อต้านมากยิ่งขึ้น
วันนี้ (31 ต.ค.) นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสียงข้างน้อย อภิปรายในการประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 และวาระ 3 โดยได้ขอปรับชื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า มีการเร่งรัดการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีความผิดปกติ ตั้งแต่การประชุมในชั้นกมธ. เนื่องจากก่อนหน้านี้ กมธ.เสียงข้างมาก เห็นด้วยที่จะรับความเห็นที่แตกต่าง ต่อมากลับเสนอที่ประชุมไม่รับความคิดเห็น
นอกจากนี้ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ยังไม่มีการระบุ "ผู้ได้รับประโยชน์" อย่างชัดเจน หรือครอบคลุมบุคคลใดมากน้อยแค่ไหน ขณะที่มีการกำหนดให้ร่างกฏหมายนิรโทษกรรมมีผล 1 วัน ถัดจากวันที่ออกใช้ได้ทันที ซึ่งอาจเกิดปัญหาในขั้นตอนการปฏิบัติ เพราะอาจจะยังไม่มีการสืบสวนคดีที่คั่งค้างให้เสร็จสิ้น เช่น เหตุการณ์สลายการชุมนุม, ผู้ที่ทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม หรือตรวจสอบว่า ใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์จากกฏหมายอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันประชาชนทุกกลุ่มออกมาต่อต้านมากยิ่งขึ้น ตลอดจนต้องการให้แยกนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ จึงขอเสนอให้ทำสอบสวนแต่ละคดี และทำข้อบันทึก ก่อนตัดสิน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความยุติธรรมให้การบังคับใช้กฏหมายแล้ว ยังก่อให้เกิดผลดีต่อรัฐบาลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายธนา ได้ระบุถึง กรณีที่นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยืนยันว่า กฏหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน และไม่เกี่ยวข้องกับการคืนเงินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในที่ประชุมกมธ. ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน เห็นว่า หากกฏหมายฉบับออกไปด้วยชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์การเมืองพ้นผิด ซึ่งอดีตนายกรัฐมนตรี ก็สิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะเรียกเงินคืนกลับไป
