ประชุมวุฒิสภาถก
หลังสั่งพักการประชุมด้วยปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ นายนิคม ไวยรัชพาณิช ประธานวุฒิสภา ก็เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา 2 เพื่อประสานหารือกับส.ว.สรรหากลุ่ม 40 และส.ว.เลือกตั้งบางส่วน ที่รวมกลุ่มกันติดตามสถานการณ์ เพื่อขอทำความเข้าใจ หลังปฏิเสธการเข้าร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวันนี้ (8 พ.ย.) และแม้จะถูกปฏิเสธให้เข้าพบ แต่หลังการประสาน ทางสองฝ่ายก็ได้หารือกัน มีประธานวุฒิสภา และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นตัวแทนเข้าหารือ
ภายหลังการหารือทั้งสองฝ่ายร่วมกันแถลงยืนยันจุดยืนที่ตรงกันแล้ว โดยเห็นสอดคล้องที่เลื่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายนตามมติของวิปวุฒิสภาก่อนหน้านี้ และแสดงเจตจำนงค์ร่วมกันที่จะลงมติยับยั้ง หรือคว่ำร่างกฎหมาย ในการพิจารณาในวาระที่ 1 แม้จะไม่ตรงตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ยื่นคำขาดให้ร่างกฎหมายต้องตกไปจากระบบ ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน เพราะเชื่อมั่นในจุดยืนของรัฐบาลที่จะไม่หยิบยกร่างกฎหมาบขึ้นมาพิจารณาให้เกิดปัญหา และกระบวนการหลังจากนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร
ประธานวุฒิสภายังใช้โอกาสนี้ ทำความเข้าใจกับส.ว.กลุ่ม 40 และกลุ่มเลือกตั้งที่มีจุดยืนเห็นต่าง โดยกล่าวข้อโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือถึงการดำเนินการก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะความเห็นต่างในการผลักดันร่างกฎหมาย และยืนยันการทำงานหลังจากนี้จะเป็นไปในแนวทางที่สอดคล้องต้องกัน
ก่อนหน้านี้ ประธานวุฒิสภาใช้ความพยายามในการเดินหน้าพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยต้องสั่งพักการประชุมถึง 2 ครั้งด้วยกัน หลังเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ โดยสมาชิกวุฒิสภาลงชื่อประชุมเพียง 68 คน ไม่ถึงกึ่งครึ่ง หรือ 75 เสียง จากส.ว.ทั้งหมด 149 คน เนื่องจากส.ว.สรรหาและเลือกตั้งบางส่วนปฏิเสธเข้าร่วม เนื่องจากการนัดประชุมเป็นไปด้วยความเร่งรีบ รวบรัด ส่อถึงเจตนามิชอบ รวมถึงที่สมาชิกบางส่วนติดภารกิจร่วมคณะกรรมาธิการศึกษาดูงานนอกสถานที่ จนท้ายสุดประธานวุฒิสภาต้องเข้าประสานหารือเพื่อยุติปัญหา
โดยในการประชุมวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ประธานวุฒิสภายืนยันที่จะให้สิทธิ์ส.ว.ในการอภิปรายอย่างเต็มที่ โดยพร้อมที่จะขยายกรอบเวลาออกไป หากมีสมาชิกแสดงเจตจำนงค์ขออภิปรายจำนวนมาก หลังจากนั้นก็จะลงมติรับหรือไม่รับร่างกฎหมายฉบับนี้