ผู้นำฝ่ายค้านระบุคำตัดสินบางประเด็นชี้ไทยเสียอธิปไตย
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติเพื่อหารือการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ตามที่รัฐบาลร้องขอ ส.ส.ฝ่ายค้านเสนอเลื่อนการอภิปรายต่อไปเนื่องจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดภาระกิจไม่เข้าร่วมรับฟัง แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็เสนอญัตติให้มีการชุมนุมต่อ จนที่สุดแล้วมีมติเสียงข้างมาก 304:90 เสียงให้ดำเนินการประชุมต่อ
จากนั้นนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัคราชฑูต ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในหัวหน้าการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร เป็นตัวแทนสรุปสาระรายงานคำตัดสินของศาลโลก โดยเฉพาะขอบข่ายอำนาจศาลในการพิจารณคำขอตีความคำพิพากษาของกัมพูชา และคำตัดสินให้กัมพูชามีอำนาจเหนืออธิปไตยยอดขาพระวิหาร หรือชะง่อนผาตามคำเรียกของสื่อมวลชน และผู้เชี่ยวชาญ และให้ถอนกำลังของฝ่ายไทยออกจากพื้นที่ แต่ศาลไม่วินิจฉัยเรื่องเขตแดน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปรายยอมรับในคำตัดสินของศาลโลกบางประเด็น ที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายไทย โดยเฉพาะกรณีที่ยืนยันขอบเขตอำนาจตีความ เฉพาะพื้นที่พิพาท แต่ขอให้รัฐบาลชี้แจง และยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าผลของคำตัดสินบางประเด็นเป็นผลเสียต่อไทย โดยเฉพาะการสูญเสียอธิปไตย และเขตแดนบางส่วนพร้อมแสดงความกังวลต่อกระบวนการนับจากนี้ อาจขาดการตรวจสอบจากสภาตามมาตรา 190
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อห่วงใยของผู้นำฝ่ายค้านถึงกระบวนการนับจากนี้จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน และการเจรจาใดๆ ในทุกกรอบความร่วมมือ กับฝ่ายกัมพูชาจะเป็นไปโดยยึดประโยชน์ของชาติโดยไม่ยึดโยงกับผลประโยชน์ส่วนตัว