มท.1 เตรียมลงพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ ฟังความเห็นปชช. คำตัดสิน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังปกติไม่มีการปรับกำลังทหาร ขณะที่กระทรวงมหาดไทย เร่งประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแปลคำพิพากษาศาลโลก สร้างความเข้าใจให้ประชาชน พร้อมเตรียมลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชนในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง คำพิพากษาศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ตามแนวชายแดน รายงานว่า ประชาชนพอใจคำตัดสินศาลโลก และมั่นใจว่า จะไม่มีเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้น พร้อมขอให้ประชาชนอย่าฟังคำยั่วยุ ที่ไม่ต้องการให้ประเทศเกิดความสงบ
เบื้องต้น ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นอกจากนี้ หลังจากที่อภิปรายเรื่องปราสาทพระวิหารในสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 แล้ว จะประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้แปลคำตัดสินศาลโลกเป็นฉบับประชาชน เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชนให้เข้าใจคำตัดสินของศาลโลกตรงกัน
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลโลก ได้อ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารไปแล้ว สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังเป็นปกติ เพราะการประสานงานระหว่างผู้นำทางทหารของสองประเทศค่อนข้างใกล้ชิด ในขณะที่ผู้บังคับหน่วยตามแนวชายแดนของสองประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน และจากการพูดคุยกับ พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา พบว่า ทางฝ่ายกัมพูชาก็ห่วงสถานการณ์ชายแดน แต่ก็ยืนยันกับทางฝ่ายไทยโดยตลอดว่า สามารถควบคุม และสั่งการทหารได้ตามปกติ ไม่มีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ส่วนประชาชนที่เข้าออกตามด่านชายแดน ยังไปมาหาสู่ ค้าขายกันเหมือนปกติ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งกำชับให้ พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 เกาะติดสถานการณ์ชายแดน ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่ารัฐบาลไทย-กัมพูชา จะมีการตกลงกันแล้วว่า จะมีการหารือกันเพื่อหาทางออก
โดยเบื้องต้นกำลังทหารไทย-กัมพูชา ที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และ พื้นที่ที่ยังคงมีปัญหาตามแนวชายแดน จะยังคงปฏิบัติเหมือนเดิมทุกอย่าง โดยจะยังไม่มีการถอนกำลังทหารออกนอกพื้นที่เด็ดขาด