เพื่อไทยเตรียมจัดโผรัฐมนตรีให้พรรคร่วม

มีการคาดการณ์ถึงหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดที่ 60 หรือคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 1 โดยจัดสรรตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคร่วม โดยเพื่อไทยจะจองเก้าอี้ไว้ 27 ตำแหน่ง สำหรับ ส.ส.ของพรรค ซึ่งเบื้องต้นมีการวางเงื่อนไขในการดูแลกระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ การทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย

 

ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่เหลือสำหรับจัดสรรให้อีก 4 พรรค จะเหลือที่ว่างอยู่อีก 8 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 35 รัฐมนตรี ซึ่งหากคำนวนตามคะแนนเสียงที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา พรรคชาติไทยพัฒนาที่มีคะแนนเสียงรองจากพรรคเพื่อไทยในพรรคร่วม คือ 19 เสียง จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการไป 3 ตำแหน่ง และตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งน่าจะควบรวมไปกับโควต้าของพรรคมหาชน ที่มีคะแนนเสียงเพียง 1 เสียง

 

ส่วนพรรคพลังชลและพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินที่ได้คะแนนเสียง 7 คะแนนเท่ากัน น่าจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการไปพรรคละ 1 ตำแหน่ง

 

ส่วนโผรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่คาดกันว่า พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจะขอโควต้ากระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นงานถนัดของหัวหน้าพรรค ส่วนพรรคพลังชลที่ออกตัวว่าถนัดที่สุดในการบริหารงานการท่องเที่ยว เนื่องจากแกนนำของพรรค คือ นายสนธยา คุณปลื้ม เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามาก่อน ซึ่งหากขอโควต้านี้ คงต้องแข่งขันกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่หัวหน้าพรรคเคยทำหน้าที่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งคาดการณ์กันว่า พลังชลอาจไม่สมหวัง เพราะน่าจะได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมให้แทน ส่วนโควต้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาอาจต้องยกให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยเหตุผลว่าต้องสานงานต่อ

 

ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคเพื่อไทย คาดกันว่า โผรายชื่อการจัดตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 จะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1-10 ของพรรค นั่นหมายถึงอาจมีรายชื่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้วย โดยมีกระแสข่าวว่า นายณัฐวุฒิน่าจะได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอาจมีการพิจารณาผู้เหมาะสมในอันดับท้ายขึ้นมารับตำแหน่ง จึงอาจหมายถึง พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ที่เป็นไปได้ว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะเคยทำงานในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน

 

กระทรวงนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เพราะหากวิเคราะห์ตามหลักการปรองดองที่พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอด ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีรายชื่อของ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร อดีตผู้บัญชาการทหารสุงสุด ซึ่งเคยทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในกองทัพมาก่อน ซึ่งน่าจะเป็นตัวช่วยและตัวเชื่อมลดปัญหาขัดแย้งกับทั้งกองทัพ และ พล.อ.เปรม นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พ่วงท้ายมาด้วย

 

ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการหรือช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาจต้องมอบให้กับนายต่อพงษ์ ไชยสาสน์ แคนดิเดตที่ถนัดงานด้านนี้ในลำดับต้นๆ ของพรรค และอาจพิจารณาหาคนนอกเข้าร่วมงานกับรัฐบาลเพื่อเสริมทัพอีกทางหนึ่ง

 

สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่า จะมีรายชื่อของขุนพลเศรษฐกิจของพรรค คือ นายโอฬาร ไชยประวัติ, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช และนายวัฒนา เมืองสุข

 

ส่วนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที มีรายชื่อของอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารไอทีวี อย่างนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งปัจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 21 ของพรรค ซึ่งเจ้าตัวออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าใครจะได้รับตำแหน่งนี้

 

กระทรวงนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษไม่แพ้กัน เนื่องจากถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการเอื้อผลประโยชน์ให้กับธุรกิจในกลุ่มชินคอร์ปอเรอชั่น แม้จะมีคำยืนยันว่า กลุ่มธุรกิจนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม