ผู้ชุมนุมจังหวัดตรังเรียกร้องรัฐทบทวนบทบาท-ฟังเสียงประชาชน
ผู้ชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมใน จ.ตรัง เห็นว่า การลงมติไว้วางใจรัฐบาลอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มผู้ชุมนุม และอาจกลับมารวมตัวใหญ่อีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ขณะที่ผู้ประสบอุทกภัยใน จ.ตรังบางคน ตำหนิการช่วยเหลือของหน่วยงานรัฐที่ล่าช้า โดยอ้างสถานการณ์ทางการเมือง
น้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้เจ้าภาพต้องทำพิธีเผาศพกลางน้ำ ในวัดประสิทธิชัย หรือ วัดท่าจีน อ.เมือง จ.ตรัง หลังน้ำป่า และฝนที่ตกหนักได้ไหลเข้าท่วมวัด ศาลาการเปรียบ พระอุโบสถ มานานกว่าสับดาห์แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่วัดเพื่อระบายลงสู่คลองท่าจีน ที่มีปริมาณน้ำมากเช่นกัน
ความลำบากเช่นนี้ยังเกิดขึ้นกับชาวบ้านอีกกว่า 25,000 คนใน จ.ตรัง ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม อย่าง 3 ครอบครัวที่บ้านท่าจีนกลุ่มนี้ อพยพมาอยู่บนถนนมานานกว่าสัปดาห์แล้ว และอาจต้องปักหลักที่นี้นานกว่า 10 วันกว่าน้ำจะระบายออกได้ทั้งหมด พวกเขาระบุว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ ทำให้การช่วยเหลือจากทางการยังทำได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.56) ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (28 พ.ย.56) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศการชุมนุมปิดศาลากลางจังหวัดตรังช่วงเช้ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่มากนัก แต่ในช่วงค่ำมีผู้ร่วมชุมนุมมากขึ้น ขณะที่ผู้ชุมนุมบางคน กังวลว่า หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉยต่อการออกมาเรียกร้องของคนส่วนใหญ่ ก็อาจทำให้กำลังของผู้คนอ่อนล้า จึงอยากให้รัฐทบทวนบทบาทและฟังเสียงของประชาชน ก่อนที่ประเทศจะบอบช้ำไปมากกว่านี้
ส่วนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ผลการลงมติไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 297 เสียง ต่อ 134 เสียง ชาวจังหวัดตรังบางคนระบุว่า ไม่แปลกใจ เพราะรัฐบาลครองเสียงข้างมากอยู่แล้ว แต่ก็กังวลว่า การลงมติครั้งนี้ จะเป็นเชื้อเพลิงใหม่ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจของกลุ่มผู้ชุมนุม และอาจกลับมารวมตัวใหญ่อีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย.นี้