ปชช.หลายจังหวัด ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
กลุ่มมวลชนบางส่วนทั้งนักเรียน นักศึกษา และภาคประชาชน ทยอยเดินทางมายังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อรวมตัวรอเป่านกหวีดขับไล่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เข้าร่วมงานสร้างอนาคตไทย 2020 แม้ล่าสุดนายกฤษฎา บุญรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะยืนยันว่าไม่มีตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมเวทีนี้ก็ตาม
ส่วนบริเวณศาลากลางจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ ยังคงมีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลปักหลักชุมนุมอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ย.) ทั้งที่จังหวัดสตูล สุราษฎร์ธานี ตรัง และกระบี่ ซึ่งมีการจัดเวทีปราศรัยท่ามกลางฝนที่ตกลงมา โดยเนื้อหายังคงเป็นการโจมตี การบริหารประเทศของรัฐบาล ขณะที่ข้าราชการที่ทำงานในศาลากลางจังหวัดได้หยุดงานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนรักษาความปลอดภัย ในศาลากลางจังหวัด ปิดประตูห้องทำงานภายในอาคาร หลังนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีคำสั่งให้ข้าราชการหยุดทำงาน 1 วัน เพื่อป้องกันกลุ่มมวลชนเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ และป้องกันเหตุการณ์บานปลาย
เช่นเดียวกับจังหวัดอุบลราชธานี ตำรวจได้สนธิกำลังรวมกับอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน นำรั้วลวดหนามมาปิดถนนทางเข้าศาลากลางจังหวัด พร้อมเตรียมรถดับเพลิงมาประจำไว้ที่ศูนย์ราชการ เพื่อควบคุมกลุ่มมวลชนที่จะเดินทางเข้ามาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านรัฐบาลช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ย.)
ส่วนการเคลื่อนไหวกลุ่มนปช. ที่จังหวัดหนองคาย ยังคงจัดเวทีปราศรัยสนับสนุนรัฐบาล บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ในตัวเมืองหนองคาย โดยยืนยันจะจัดเวทีคู่ขนานเพื่อสนับสนุนรัฐบาล พร้อมประนามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นำมวลชนปิดสถานที่ราชการ โดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย
ขณะที่ที่จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มต่อต้านรัฐบาลยังคงรวมตัวกันเปิดเวทีปราศรัยบริเวณ ศาลากลางจังหวัด ต่อเนื่องเป็นคืนที่ 2 เนื้อหาการปราศรัย ได้นำเสนอข้อกำหนดกติกาใหม่ ในการปฏิรูปประเทศไทย ทั้งการลดอำนาจนักการเมือง วางมาตรการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และแผนพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
เช่นเดียวกับที่จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ และจังหวัดแพร่ ที่มีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจัดเวทีปราศรัยเพื่อขับไล่รัฐบาลเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกัน โดยต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศ ตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมระบุจะไม่มีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการอย่างเด็ดขาด