นางออง ซาน ซูจี กล่าวว่าในนามของชาวพม่าขอขอบคุณที่ไทยได้ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและแรงงานพลัดถิ่นจากพม่าด้วยดีตลอดมา และปรารถนาอย่างยิ่งที่จะขอให้คนไทยคงความเห็นอกเห็นใจและโอบอ้อมอารีเช่นนี้ต่อไป ซึ่งนางซูจีกล่าวว่าชาวพม่าสามารถเสริมสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับชาวไทยและชาติไทย และขอแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งทั่วไปของไทย
ทั้งนี้นางซูจีกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางออกนอกเมืองย่างกุ้งเป็นครั้งแรกนับแต่ได้รับอิสรภาพเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยก่อนเดินทางมาถึงจุดหมายในเมืองพุกาม นางซูจีได้นัดพบที่สนามบินกับนายคิม อาริส บุตรชายคนสุดท้องที่เดินทางมาจากอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีกองทัพสื่อมวลชนร่วมติดตามมารายงานข่าว และตำรวจนอกเครื่องแบบร่วมเดินทางมาคอยดูแลความปลอดภัย ซึ่งเมื่อมาถึงก็ปรากฏว่ามีประชาชนในเมืองพุกามมาให้การต้อนรับและคอยติดตามเธอเป็นจำนวนมาก
สำหรับการมาเมืองพุกามครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี โดยครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2532 ซึ่งเป็นช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปในปีถัดมาที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย แต่ทว่ารัฐบาลทหารพม่าในช่วงนั้นไม่ยอมเปิดทางให้เธอและพรรคเข้าบริหารประเทศ โดยการรณรงค์ทางการเมืองในเขตชนบทครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 2546 ซึ่งมีฝูงชนชาวพม่ามาให้การต้อนรับนางซูจีกันอย่างล้นหลามจนสร้างความแค้นเคืองให้กับรัฐบาลทหารพม่าเป็นอย่างมาก และตามติดมาด้วยเหตุการณ์ซุ่มโจมตีคณะของเธอ จากนั้นนางซูจีก็ถูกควบคุมตัวไว้ภายในบ้านพักอย่างยาวนานก่อนที่จะได้รับอิสรภาพเมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว
ขณะที่สื่อทางการพม่าเคยเตือนก่อนหน้านี้ว่าการเดินทางลงพื้นที่ต่างจังหวัดแบบนี้อาจปะทุเป็นความไม่สงบและการจลาจล แต่นางซูจีก็ยืนกรานว่าจะเดินทางไปตามพื้นที่ชนบทของพม่าแบบนี้ต่อไป สำหรับเมืองพุกามแห่งนี้อยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ถือเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชนชาวพม่า ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่แห้งแล้งในภาคกลาง และได้รับฉายาว่า "เมืองแห่งทะเลเจดีย์" หรือ"ดินแดนแห่งเจดีย์ 4,000 องค์"