เครือข่าย กปปส.ต่างจังหวัด รอสัญญาณเป่านกหวีด
ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการต่างๆ ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสงขลา กลับมาทำงานตามปกติอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ (12 ธ.ค.) หลังจากเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) เครือข่าย กปปส.สงขลา รื้อเต๊นท์ เก้าอี้ รวมถึงเวทีชุมนุม เพื่อยุติการชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลงชั่วคราว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงรักษาความปลอดภัยผู้ผ่านเข้า-ออกอย่างเข้มงวด
ส่วนเวทีปราศรัยหน้าศาลากลางจังหวัดสตูลเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ธ.ค.) ผู้เข้าร่วมชุมนุมบางตา มีเพียงกลุ่มมวลชนในเขตอำเภอเมืองสตูลเท่านั้น ที่ยังคงเดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยของแกนนำในพื้นที่ ส่วนที่เหลือเลือกที่ติดตามข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องบลูสกาย
เช่นเดียวกับเวทีบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีประชาชนร่วมชุมนุมจำนวนไม่มาก โดยส่วนใหญ่เลือกที่จะติดตามสถานการณ์การชุมนุมผ่านสื่อโทรทัศน์เช่นกัน เพื่อรอสัญญาณการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ส่วนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กลุ่มต่อต้านรัฐบาลยังคงชุมนุมประท้วงที่บริเวณหน้าโรงเรียนสรรพวิทยาคม อย่างต่อเนื่อง แกนนำผู้ชุมนุมยืนยันว่า จะเดินหน้าชุมนุมทางการเมืองต่อไปโดยสันติ และไม่สร้างความเดือดร้อน คู่ขนานกับเวทีราชดำเนิน ที่กรุงเทพมหานคร
ที่ จ.พิจิตร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกว่า 30 นาย ยังคงวางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย รอบๆบริเวณศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อป้องกันทุกกลุ่มมวลชนเข้ามาใช้พื้นที่เคลื่อนไหว หลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจะเข้าหารือกับผู้นำเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติวันนี้ ซึ่งหากไม่ได้ข้อสรุป กลุ่มมวลชนอาจออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ส่วนเครือข่าย กปปส.ที่ จ.นครราชสีมา ยังคงร่วมชุมนุมเวทีคู่ขนานที่กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยนายจักริน เชิดฉาย แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม บอกว่า การที่นายกรัฐมนตรีไม่ยอมลาออกจากรักษาการณ์ ทำให้การปฏิรูปประเทศไทยเดินหน้าต่อไปไม่ได้ และเห็นว่าควรจัดตั้งสภาประชาชนก่อนจัดการเลือกตั้ง
ขณะที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตย" ในจังหวัดยโสธร นำรถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียงเปิดเวทีปราศรัย ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลตาดทอง โดยแกนนำได้กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และการกระทำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ยังนำมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาลรักษาการณ์ ว่าเป็นระบอบเผด็จการ