บทบาทภาคเอกชนต่อทางออกประเทศไทย
ในเวทีกลาง ภาคเอกชน 7 องค์กร เมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.56) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการระดมความเห็นทั้งจากภาคเอกชนและสื่อมวลชน แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากยังคงต้องเปิดเวทีกลาง ระดมความคิดเห็นอีกหลายครั้ง เพื่อให้ได้แนวที่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้
แต่นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า รู้สึกพอใจกับเวทีกลางภาคเอกชนที่จัดขึ้นครั้งแรก แต่ก็ยอมรับว่า ได้รับการคาดหวังสูง สำหรับเวทีของภาคเอกชนครั้งนี้ เป็นเวทีรับฟังและหาแนวทางที่เป็นไปได้ เพื่อเสนอให้กับคู่ขัดแย้งทางการเมือง
เบื้องต้น มีข้อเสนอจัดตั้ง "องค์กรเพื่อปฏิรูปประเทศ" ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และพรรคการเมืองควรต้องทำสัญญาประชาคมว่า รัฐบาลชุดใหม่หลังเลือกตั้ง จะปฎิบัติภารกิจพิเศษเพื่อปฏิรูป
นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ให้ความเห็นว่า บทบาทของภาคเอกชนครั้งนี้ เข้ามาในจังหวะสำคัญ ของวิกฤติการเมือง ซึ่งการแสดงจุดยืนเป็นเวทีเป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็น ไม่ได้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลและตกผลึก ก็สามารถนำมาประมวล และนำเสนอลำดับความสำคัญก่อนหลังที่จะแก้ไขปัญหาการเมือง
นายอัมมาร กล่าวอีกว่า คู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย มีความเห็นตรงกันคือ ต้องการที่จะปฏิรูปการเมือง และต้องยอมรับว่า ขณะนี้ภาคประชาชนก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกว่าภาคการเมือง ซึ่งอำนาจของภาครัฐและอำนาจจากภาคประชาชนในวันนี้ อยู่ในจุดที่ทัดเทียมกันพอดี