7 องค์กรเอกชน เสนอออก พ.ร.ก.ปฏิรูปประเทศ ทันที
การจัดเวทีกลางครั้งที่ 2 เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย โดยมีการเสวนา และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อหาทางออกให้กับประเทศท่ามกลางความขัดแย้ง ซึ่งเครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องปฏิรูปประเทศทันที โดยรัฐบาลรักษาการสามารถใช้อำนาจที่มีอยู่จัดตั้งองค์กรปฏิรูปประเทศ โดยอาจออกเป็นพระราชกำหนดมารองรับการทำงาน เพื่อสร้างการยอมรับ และความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่าย หลังประเมินว่าการลงสัตยาบันของพรรคการเมืองอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยไม่ขอก้าวก่ายกระบวนการการเลือกตั้งที่กำลังดำเนินอยู่
สำหรับต้นแบบโครงสร้างองค์กรปฏิรูปประเทศตามข้อเสนอนี้ 7 องค์กรภาคเอกชนยังไม่กำหนดชัดเจน แต่เห็นว่าควรมีตัวแทนทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน พรรคการเมือง คู่ขัดแย้ง และองค์กรวิชาชีพ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่ด้วย โดยองค์กรปฏิรูปจะทำงานคู่ขนานกับรัฐบาลรักษาการ หรือผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล เพื่อไม่ให้การบริหารราชการหยุดชะงัก แต่รัฐบาล ไม่มีอิทธิพลต่อการทำงานขององค์กรดังกล่าว
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะอดีตคณะอนุกรรมการตรวจสอบและค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.ระบุว่า การปฏิรูปประเทศต้องเริ่มทันที โดยเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งยอมมาคุยกันในเวทีกลาง เพื่อหารือแนวทางการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรม
ขณะที่รัฐบาลตกลงที่จะสนับสนุนโดยออกพระราชกฤษฎีกา ซึ่งขณะนี้ร่างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อเสร็จแล้วจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.) โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ประธานการประชุม