งานคริสต์มาสชุมชนกุฎีจีน
การแสดงจินตลีลาประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ลมหนาว แสดงโดยนักเรียนโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา ช่วยเพิ่มสีสันให้บรรยากาศค่ำคืนวันคริสต์มาส เต็มไปด้วยความสุขใจ ยิ่งได้เสียงระฆังการิยอง โบสถ์ซานตาครูส บรรเลงประกอบบทเพลงนี้เป็นครั้งแรก ก็ช่วยให้งานเทศกาลศิลป์ในซอย ครั้งที่ 5 กะดีจีน คลองสาน : ศิลป์ สรรค์ สนั่น ซอย ยิ่งชวนให้การแสดงนี้น่าชมมากขึ้น
ระฆัง 16 ใบ คู่โบสถ์เก่าอายุราวต้นกรุงรัตนโกสินทร์แห่งนี้ จะถูกบรรเลงในพิธีทางศาสนาและวาระสำคัญ เช่น คริสต์มาส เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นริมฝั่งเจ้าพระยาของชุมชนกุฎีจีน ที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย ภายใต้ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม
นายปฏิภาน สุวรรณศิริ ผู้ตีระฆังการิยอง ระบุว่า "ที่เรามองเห็นด้วยสายตาเปลี่ยนแปลงไปพัฒนาไปตามเวลา แต่ว่าคงสภาพเดิมอยู่ที่ทำให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชุมชน รวมรอบ ๆ บ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นเรื่องดี ซึ่งคนในยุคก่อนก็เคยใฝ่ฝันว่าอยากให้มีการรวมเป็นหนึ่งเดียวในเทศกาลสำคัญ"
ด้านนายวิทยา คู่วิรัตน์ เจ้าอาวาสวัดซางตาครู้ส กล่าวว่า "เอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือ การที่ชุมชนมีส่วนรวมถือเป็นสิ่งที่สำคัญสุด ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงชาวคริสต์เท่านั้น ทั้งชาวพุทธ หรือชาวมุสลิมก็มาร่วม ซึ่งวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดที่กำลังสร้างศาสนสัมพันธ์คือความเป็นหนึ่งเดียวกันในศาสนาโดยไม่แบ่งแยกกัน"
เทศกาลคริสต์มาสชุมชนกุฎีจีนเริ่มแล้วตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งตามตรอกซอกซอย แต่ละบ้านก็จะเปิดบ้าน ให้ผู้คนเข้าไปถ่ายรูป หรือแม้แต่งงัดสูตรเด็ดของครอบครัวออกมาให้ซื้อและให้ชิมกันค่ะ โดยบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านที่มีเชื้อสายโปรตุเกสก็ได้นำเอาสูตรเด็ดด้วยเมนูยำทวายแบบนี้มาให้ผู้คนได้ลองลิ้มชิมรส
นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นถิ่นมาให้ได้ชม และชิม บอกถึงที่มาของผู้คนหลายชาติหลายภาษาเข้ามาตั้งรกรากริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ทั้ง จีน แขก ลาว มอญ และโปรตุเกส อยู่ร่วมกัน เมื่อถึงงานสำคัญของชุมชน จะมาร่วมกันจัดงาน เช่นครั้งนี้ ซึงเป็นการเริ่มต้นเทศกาลศิลป์ในซอย ครั้งที่ 5 ซึ่งจะมีเทศกาลท้องถิ่นอีก 3 ครั้งในปีหน้า (57) เช่น งานฉลองวัดรั้วเหล็ก เมาลิด ตรุษจีน โดยใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือเชื่อมสัมพันธ์ด้วยกิจกรรมประจำปีของย่านกะดีจีนและคลองสาน