อ่านคำวินิจฉัยศาลโลก 18 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ในเอกสารข่าวหน้าเว็บไซต์ Press Room หรือห้องสื่อมวลชนของศาลโลก ได้แจ้งกำหนดการอ่านคำวินิจฉัยขององค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกจำนวน 17 ท่าน ในเรื่องการออกมาตรการชั่วคราว ทั้งนี้การอ่านคำวินิจฉัยจะมีขึ้นภายในปราสาทสันติภาพ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลโลก

 

กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ให้ตีความคำพิพากษาของศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 ที่ได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้มีการวินิจฉัยในเรื่องเส้นเขตแดน ในคำร้องเดียวกันกัมพูชาได้ขอให้ศาลโลกออกมาตรการชั่วคราว สั่งให้ถอนทหารไทยออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร และห้ามทำกิจกรรมทางทหารใดๆ ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร รวมถึงดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบสิทธิ์ของกัมพูชาจนกว่าศาลจะตีความคำพิพากษาตามที่ร้องเรียน

 

นายวีรชัย ผลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานต่อสู้คดีของไทย ได้นำทีมทนายความต่างชาติของไทยชี้แจงกับองค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกระหว่างวันที่ 30-31 มิ.ย. หักล้างข้อกล่าวหาของกัมพูชา ระบุศาลโลกไม่มีอำนาจในการออกมาตรการชั่วคราวตามที่กัมพูชาร้องขอ และเห็นว่าสาเหตุการสู้รบในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารมาจากการสร้างสถานการณ์ของทหารกัมพูชา รวมถึงการใช้พื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นฐานปฏิบัติการด้านการทหาร โดยการนำอาวุธหนักและทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อโจมตีทหารไทย พร้อมชี้แจงไม่มีความเร่งด่วนของสถานการณ์ในการออกมาตรการชั่วคราวตามที่ร้องขอ และยังเห็นว่าพื้นที่สู้รบเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บริเวณปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม อยู่ทางตะวันตกของตัวปราสาทพระวิหารร่วมกว่า 150 กิโลเมตร การขอให้ศาลออกมาตรการชั่วคราวในพื้นที่ปราสาทพระวิหารไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน

 

ในคำร้องของกัมพูชาเรื่องการออกมาตรการชั่วคราว ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามทหารไทยมีการกิจกรรมและการเคลื่อนไหวด้านการทหารในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร รวมถึงห้ามดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบสิทธิ์ของกัมพูชาจนกว่าศาลจะตีความคำพิพากษาตามที่ร้องเรียน ซึ่งคาดว่าการตีความดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี