ผู้ส่งออกแนะรัฐบาลใหม่ระบุกรอบค่าเงินบาท
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุว่าหากรัฐบาลใหม่จะประกาศมาตรการเงินบาทแข็งค่าและเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลักโดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ประมง ปศุสัตว์ และเกษตร เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า รวมถึงสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ขณะเดียวกันบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย และนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งใช้แรงงานในประเทศน้อยกลับได้ประโยชน์ และยิ่งผลักดันให้กลายเป็นสินค้าที่มียอดส่งออกอันดับต้น ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์
ทั้งนี้สภาผู้ส่งออกไม่คัดค้านนโยบายนี้ แต่รัฐบาลควรกำหนดกรอบการแข็งค่าเงินบาทและระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมรับมือได้ โดยสามารถกำหนดราคาสินค้าที่นำไปตกลงกับผู้ซื้อในต่างประเทศได้ แต่หากมาตรการรัฐหรือค่าเงินผันผวนย่อมทำให้สูญเสียศักยภาพการแข่งขัน และเมื่อบวกกับค่าแรงขั้นต่ำที่จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 บาทด้วยแล้ว เชื่อว่าผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาก และบางกลุ่มอาจต้องหยุดกิจการชั่วคราว
อย่างไรก็ตามนายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่านโยบายเงินบาทแข็งค่า หากมองภาพรวม มีทั้งส่วนที่ส่งผลกระทบและได้ประโยชน์ โดยที่ได้ประโยชน์คือ ช่วยให้การนำเข้าน้ำมันมีราคาถูกลงก็จริง แต่จริงเพียงส่วนเดียว แต่ปัจจัยที่สำคัญคือ ราคาน้ำมันขึ้นกับราคาตลาดโลก หากราคาตลาดโลกแพงราคาก็จะแพงตามไปด้วย