ศาลโลกเตรียมวินิจฉัยคำร้องกัมพูชาคดีพระวิหาร 18 ก.ค.

วันที่ 18 ก.ค.นี้ เป็นวันที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก จะมีการพิจารณามาตรการคุ้มครองชั่วคราวปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชายื่นขอใน 3 ประเด็น คือ ขอให้ประเทศไทยถอนทหารออกจากปราสาทพระวิหาร, ขอให้ไทยหยุดกิจกรรมทางทหารที่จะกระทบต่อสิทธิและอธิปไตยของกัมพูชา และหยุดสร้างโจมตีและสร้างสถานการณ์การสู้รบระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ทั้งไทยและกัมพูชาได้แถลงการณ์ด้วยวาจาไปแล้ว ส่วนกรณีที่ขอให้มีการตีความในคำพิพากษาของศาลเมื่อปี 2505 จะยังไม่มีคำตัดสินในวันที่ 18 ก.ค.นี้ สำหรับคณะของกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 14 ก.ค.นี้

 

ส่วนสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวกัมพูชาเร่งรวบรวมและขนสินค้าจากฝั่งไทย ข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อกลับไปใช้อุปโภคบริโภคยังฝั่งกัมพูชา ภายหลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่คลายความตึงเครียดลง ทำให้บรรยากาศการค้าขายที่ตลาดช่องสะงำเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาคึกคึกที่สุดในรอบ 3 เดือน

 

นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าการท่องเที่ยวช่องสะงำ เชื่อว่า การที่ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่งเริ่มกลับมาแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า เพราะต่างฝ่ายต่างก็คิดว่า หลังการเปลี่ยนแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ไทยและกัมพูชาจะสามารถเจรจาเพื่อยุติข้อขัดแย้งเรื่องเขตแดนได้

 

ส่วนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่จัดทัวร์ไปยังกัมพูชาเปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยพากันสั่งจองทัวร์ เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศกัมพูชาในเดือน ส.ค. กับผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

 

ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทหารกองกำลังสุรนารียังคงวางกำลังโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่มีรายงานว่า สถานการณ์เริ่มลดระดับความตึงเครียดลง และมีการอนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่ออกไปทำไร่นาตามแนวชายแดนได้ตามปกติ