กัมพูชาโต้การถอนทหารต้องเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุพร้อมจะถอนทหารออกจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร แต่ต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งไทยและกัมพูชา โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียจะต้องเข้ามากำหนดกรอบพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนการถอนทหาร
สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันระหว่างการแถลงข่าววันนี้ (22 ก.ค.) ว่า การถอนทหารตามคำวินิจฉัยของศาลโลกไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้หรือการสูญเสียสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของหรือการบริหารจัดการพื้นที่ที่ถูกกำหนดกรอบโดยศาลโลกแต่อย่างใด แต่พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ปลอดทหารเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมระบุว่า กัมพูชาพร้อมจะถอนทหารเพื่อปกป้องสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อป้องกันการสู้รบที่อาจจะเกิดขึ้นอีก แต่การจะถอนทหารจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ และเงื่อนไขสำคัญคือจะต้องมีผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่เพื่อกำหนดกรอบพื้นที่ถอนทหารให้ชัดเจนเสียก่อน การถอนทหารจึงจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ผู้นำกัมพูชายังปฏิเสธคำให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ที่ระบุว่า พื้นที่ 17.3 ตารางกิโลเมตรที่ศาลตีกรอบเป็นพื้นที่ถอนทหารนั้นเป็นพื้นที่ฝั่งไทย 8.5 ตารางกิโลเมตร อีก 8.8 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา โดยผู้นำกัมพูชากล่าวอ้างว่า พื้นที่ที่ต้องถอนทหารนั้นเป็นของกัมพูชา 14.3 ตารางกิโลเมตร และเป็นของไทยเพียง 3.02 ตารางกิโลเมตร พร้อมระบุว่า การกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีไทยเป็นการกล่าวอ้างโดยใช้แผนที่ที่ไทยใช้เพียงฝ่ายเดียว