วันนี้ (10 ก.พ.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยภายหลังผลประชุมคณะกรรมการ กสทช. ว่า สำนักงานเสนอเป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้น สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบกิจการทีวีดิทิทัล ที่จะขอให้บอร์ดพิจารณาไม่ต้องเก็บค่าประมูลที่เหลืออีก 4 งวด หากผู้ประกอบกิจการ ต้องการยกเลิกใบอนุญาต แต่ไม่ใช่การเสนอเป็นวาระเพื่อพิจารณา เนื่องจาก การตัดสินใจต้องใช้ความรอบคอบ โดยที่ผ่านมา สำนัก กสทช. ได้ตั้งคณะทำงานชุดเดิมเพื่อแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล ซึ่งมีตัวแทนจาก สำนักงานคณะกฏฤษฏีกา, สำนักงานอัยการสูงสุด และ ตัวแทนจากกระทรวงการคลังร่วมพิจารณา ซึ่งต้องใช้ความรอบคอบ
ทั้งนี้การเสนอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการ จะเสนอเข้าที่ประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการคลัง ที่จะประชุมร่วมกันในวันที่ 15 ก.พ.2559 จากนั้นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม บอร์ด กสทช. วันที่ 16 ก.พ. เพื่อพิจารณา แต่โดยการดำเนิน ตามหลักการรัฐต้องไม่เสียหาย และผู้ประกอบการต้องอยู่รอดได้
สำหรับข้อเสนอที่ผู้ประกอบกานต้องการมากที่สุด คือ ขอเลื่อนจ่ายค่าประมูลงวดที่สามออกไป จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคมของทุกปี การเลื่อนอายุการเริ่มต้นใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ออกไป จากเดิมเริ่มต้นวันที่ 24 พ.ค.2557 ให้เลื่อนเป็นวันที่ 24 พ.ค.2558 ประเด็นการคืนใบอนุญญาต โดยกสทช. ไม่ต้องเก็บเงินประมูลส่วนที่เหลือในงวดที่ 4 ถึง งวดที่ 6 กระบวนการวัดเรตติ้งว่ามีจำนวนผู้ชมทีวีดิจิทัลจำนวนเท่าไร และแผนการแจกคูปองให้ครบ 22 ล้านครัวเรือน ซึ่งประเด็นทั้งหมด เลขาธิการ กสทช. ยืนยันว่า จะได้คำตอบไม่เกินสิ้นเดือน ก.พ.2559
“ยังยืนยันว่า มี 5-7 ช่อง ที่ สอบถามแนวทางการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ซึ่งผมบอกไม่ได้จริงๆ ว่า ช่องอะไรบ้าง แต่เมื่อพวกเค้ารู้ว่า ถ้าคืนใบอนุญาตแล้วต้องจ่ายค่าประมูลเต็มจำนวน 100 % รวมถึงงวดที่ยังไม่ได้จ่ายอีก 4 งวด เค้าก็บอกว่า ก็ต้องเดินทางทำช่องทีวีต่อไป แต่ในมุมของกสทช. ก็เห็นว่า การทำมาหากินของเค้ามันก็อึดอัดเต็มที่แล้ว หากจะคืนก็ต้อง ปล่อยให้เกิดปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจ๊งกันหรือไม่ ก็มาดูกันอยู่ว่า มันจะมีแนวทางอื่นหรือไม่” นายฐากรกล่าว
นอกจากนี้เหตุผลที่ผู้ประกอบการเสนอว่าประสบปัญหาขาดทุน ส่วนใหญ่เกิดจาก การเกิดขึ้นของ ทีวีดิจิทัลนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่มีเหตุการณ์รัฐประหาร ดังนั้นขอเสนอให้เลื่อนการเริ่มต้นใบอนุญาต จึงถูกเสนอขึ้นมา รวมทั้ง หลังจากรัฐประหาร จนถึงขณะนี้ ยังมีการออกรายการพิเศษจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วงเวลาไพร์มทามส์ต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการยืนยันว่าได้รับผลกระทบมาก ซึ่ง 3 หน่วยรับฟังในการประชุมร่วมกันในคณะทำงานแก้ไขปัญหา ทีวีดิจิทัล ทั้งกฤษฎีกา,อสส.และ ก.คลัง ให้ความเห็นว่า มีน้ำหนักรับฟังได้แต่ต้องหารือกันเอง 3 หน่วยงาน ร่วมกับ สำนักงาน กสทช. วันที่ 15 ก.พ.2559 อีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวแทนผู้ปรักอบการร่วมด้วยแล้ว
ส่วนผลประชุมบอร์ด กสทช. วันที่ 16 ก.พ. หากมีประเด็นไหน ที่บอร์ดไม่กล้าตัดสินใจ ก็จะเสนอให้เป็นอำนาจ ของหัวหน้าคสช.