วันนี้ (21 ก.พ.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เสนอให้ความช่วยเหลือกับรัฐบาลฟิจิ โดยระบุว่าจากประสบการณ์ทำให้เข้าใจดีถึงสถานการณ์ ซึ่งการสื่อสารตามเกาะแก่งรอบนอกต้องเป็นไปอย่างยากลำบากและจำเป็นต้องเข้าถึงอย่างเร่งด่วน ดังนั้นออสเตรเลียพร้อมที่ส่งเครื่องบินพี-3 โอเรียน เข้าไปสำรวจทางอากาศเพื่อประเมินความเสียหาย
รัฐบาลฟิจิกำลังสำรวจความเสียหายที่เป็นวงกว้างจากเหตุการณ์ที่พายุไซโคลนวินสตัน ซึ่งเป็นพายุไซโคลนลูกใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่มีการบันทึกไว้ของการพัดถล่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ พายุไซโคลนวินสตัน ซึ่งมีความรุนแรงสูงสุดอยู่ในระดับ 5 พัดถล่มหมู่เกาะประเทศฟิจิเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.2559) ในเวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 13.30 น.ตามเวลาของไทย ความรุนแรงของลมสูงถึง 325 กม.ต่อ ชม. และยังทำให้เกิดฝนตกหนัก คลื่นทะเลสูงถึง 12 เมตร มีรายงานเบื้องต้นว่าหลายหมู่บ้านพังถล่มราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 คนที่ยืนยันแล้วนั้นเกิดจากหลังคาอาคารพังลงมาทับ
ก่อนที่พายุจะเข้ารัฐบาลฟิจิได้ประกาศเคอร์ฟิว หรือการห้ามประชาชนออกนอกบ้านและประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีของฟิจิระบุในตอนนั้นว่า ฟิจิกำลังจะพบกับมหันตภัยจากพายุไซโคลนครั้งใหญ่ที่สุด ขณะที่สำนักการบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของฟิจิได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 758 แห่งทั่วประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
พายุไซโคลนวินสตันเปลี่ยนทิศทางการพัดขึ้นฝั่งอย่างกระทันหันในนาทีสุดท้ายโดยเบี่ยงไปจากการพัดเข้าถล่มกรุงซูวาแบบตรงๆ