วันนี้ (27 ก.พ.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ชาวชุมชนได้ร่วมกันจัดเวทีพูดคุยกรณีที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 2 ในชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาชาวชุมชนไม่มีข้อมูลเรื่องโรงไฟฟ้าชีวมวล ว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง อีกทั้งขั้นตอนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 1 เกิดขึ้นแบบเร่งด่วน ขาดการมีส่วนร่วมของชาวชุมชน ใช้วิธีเลี่ยงกฏหมายในการก่อสร้าง คือก่อสร้างเพียง 9.9 เมกะวัตต์ เพราะไม่ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่หากสร้างขนาด 10 เมกะวัตต์ ต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
น.ส.โสภิดา ชัวชมเกตุ ชาวชุมทุ่งนาเคียน กล่าวว่า วันนี้ชาวชุมชนได้จัดเวทีพูดคุยข้อมูลกรณีจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขึ้นในชุมชน เพราะที่ผ่านมาคนในชุมชนเกือบทั้งหมดไม่มีข้อมูลและความรู้เรื่องผลกระทบของโรงไฟฟ้าชีวมวล ว่าหากก่อสร้างในชุมชนจะส่งผลกระทบด้านใดบ้าง จนกระทั้งมีการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 1 แล้วเสร็จ โดยคนในชุมชนตั้งข้อสังเกตว่า การสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 2 ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ใน ต.ขุดตัดหวาย อยู่ห่างจากโรงที่ 1 เพียง 1 กม. ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน เนื่องจากการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 10.เมกะวัตต์เป็นต้นไป ต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)
"มีโอกาสไม่ผ่านสูงมาก เพราะชาวบ้านไม่ยอมรับ ไม่ต้องการ แต่ฝ่ายที่ต้องการก่อสร้างใช้วิธีเลี่ยงกฏหมายคือสร้าง 9.9 เมกะวัตต์ และทำไมต้องสร้างใน ต.ขุดตัดหวาย ถึง 2 โรง แต่ละโรงห่างกันเพียง 1 กม. และมีเอกสารที่ชี้ว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลสามารถใช้ถ่านหินได้ 35% ใช่หรือไม่ หากโรงไฟฟ้าชีวมวลมีผลดีจริงทำไมถึงต้องมาสร้างที่ ต.ขุนตัดหวาย ทำไมไม่มีคนแย่งกันไปสร้างบ้านตัวเอง นี้คือข้อมูลที่พูดคุยกันและเป็นคำถามไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" น.ส.โสภิดากล่าว
สำหรับข้อเสนอของชาวบ้าน คือ ให้หยุดการอนุมัติก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 2 ชั่วคราว และขอดูผลการดำเนินงานของโรงที่ 1 ที่กำลังเดินเครื่องจักร ว่ามีผลกระทบรุนแรงทั้งฝุ่น มลพิผษ ควัน น้ำเสีย เสียงดังหรือไม่