วันนี้ (12 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเป็นประธานกล่าวเปิดสัมมนาเรื่อง "บทบาทของศาสนาในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีการกำลังใจ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ระบุสั้นๆ ว่า ได้พูดไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเพิ่มเติม
แต่ระหว่างกล่าวเปิดการสัมมนา พล.อ.เปรม ระบุว่า ศาสนาไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นสิ่งวิเศษที่จะใช้นำทางป้องกัน และยับยั้งการทุจริตและประพฤติมิชอบในบ้านเมืองได้ แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยตรง แต่จะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าการฉ้อโกงเป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ
พล.อ.เปรม กล่าวย้ำว่าการโกงเป็นสิ่งที่น่าอับอาย แต่ยอมรับว่าประเทศไทยมีอัตราการโกงสูง และประเทศไทยมีการปราบปรามการโกงช้า ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองแย่ลง ทั้งนี้ รู้สึกภูมิใจที่นำ 5 ศาสนามารวมตัวกัน ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม ซิกซ์ ฮินดู เพราะจะเป็นกลไกช่วยอบรมสั่งสอนปราบปรามการคอร์รัปชั่น และชี้ว่าการป้องกันไม่ให้มีการโกง ควรเริ่มต้นที่ตัวเองและครอบครัว ด้วยการปลูกฝังจริยธรรมและคุณธรรมควรไว้ในความรู้สึกของคนในชาติ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนาในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้จัดสัมมนาเรื่อง "บทบาทของศาสนาในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น" ก่อนจะนำผลการแลกเปลี่ยนความเห็นครั้งนี้ไปสรุปรวมเป็นข้อมูลพิจารณาแนวทางปฏิบัติในอนาคต