ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่นายสมชาย นีละไพจิตร หนึ่งในผู้สูญหาย หายตัวไป ครอบครัวนีละไพจิตรเฝ้าเพียรพยายามติดตามความคืบหน้าของคดี ทั้งการยื่นร้องเรียนไปยังทุกหน่วยงานในไทยและต่างประเทศรวมถึงการทำกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นสังคม จนคดีขึ้นสู่ชั้นศาลแม้ศาลฎีกาจะยกฟ้องตำรวจทั้ง 5 นาย แต่ความพยายามของคนในครอบครัวยังไม่จบยังคงเร่งผลักดันให้รัฐบาลควรต้องเห็นความสำคัญของ พระราชบัญญัติเพื่อป้องกันการถูกบังคับให้สูญหาย หรือการถูกอุ้มหายในไทย
ก่อนหน้านี้ย้อนไปเมื่อ 61 ปี นายหะยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนาเป็นหนึ่งในผู้ถูกบังคับให้สูญหายหรือถูกอุ้มหาย คนแรกๆ หลังจากนั้น มีหลายๆคนถูกอุ้มหาย ไม่ว่าจะเป็นนายทนง โพธิ์อ่าน ผู้นำแรงงาน นายสมชาย นีละไพจิตร จนถึงล่าสุด นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ซึ่งหายไปเป็นระยะเวลา 2 ปี และล่าสุดคือนายณัฐพงษ์ศรีคะโชติ ถูกตำรวจพาออกจากบ้านกลางดึกของวันที่ 4 ธันวาคม ปีที่แล้ว และ นายฟาเดล เสาะหมาน ถูกกลุ่มชายจำนวนหนึ่งบังคับให้ขึ้นรถยนต์ไปเมื่อวันที่ 24 มกราคม
หลังนายสมชายหายตัวไปเมื่อปี 2547 รัฐบาลได้ลงนามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลไม่ให้สูญหาย โดยต่อมากระทรวงยุติธรรมได้มีการจัดทำ ร่างพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เสร็จสิ้นเมื่อประมาณช่วงปลายปี 2557