ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีคำสั่งให้กองทัพเริ่มถอนกำลังพลออกจากประเทศซีเรียในวันนี้ (15 มี.ค.2559) โดยให้เหตุผลว่าภารกิจของรัสเซียในการแทรกแซงความรุนแรงในซีเรียบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของประธานาธิบดีปูตินสร้างความประหลาดใจให้กับนานาชาติและมีขึ้นในขณะที่กำลังมีการเจรจาสันติภาพซีเรียครั้งใหม่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในความพยายามที่จะยุติสงครามความขัดแย้งในซีเรียที่ยืดเยื้อมา 5 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2.6 แสนคน ขณะที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียเห็นด้วยที่รัสเซียจะถอนกำลังพลออกไป
รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของประธานาธิบดีอัสซาด เริ่มเปิดการโจมตีทางอากาศในซีเรียเมื่อเดือนกันยายน 2558 เพื่อสร้างดุลอำนาจให้กับรัฐบาลซีเรียและเปิดทางให้กองทัพรัฐบาลเข้ายึดพื้นที่สำคัญคืนจากกลุ่มกบฏ โดยรัสเซียมีเครื่องบินรบประจำการอยู่ในซีเรียประมาณ 30 ลำ พร้อมด้วยกำลังพลย่อยที่ทำหน้าที่คุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีกำลังพลจากหน่วยรบพิเศษและที่ปรึกษาทางการทหารที่คอยประสานงานกับกองทัพรัฐบาลซีเรียทางภาคพื้น
ขณะที่ฝ่ายต่อต้านในซีเรีย แสดงความยินดีต่อคำประกาศของผู้นำรัสเซีย แต่ยังคงแสดงความเคลือบแคลงใจโดยระบุว่า หากรัสเซียถอนกำลังพลออกไปจริงจะส่งผลดีต่อการเจรจาสันติภาพ ด้านสหรัฐฯ แสดงความเคลือบแคลงใจต่อความเคลื่อนไหวของผู้นำรัสเซียเช่นกันและระบุว่าจะรอดูว่ารัสเซียมีความตั้งใจจริงหรือไม่
ที่ผ่านมารัสเซียยืนยันมาโดยตลอดว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมีเป้าหมายที่กลุ่มก่อการร้าย แต่ถูกชาติมหาอำนาจตะวันตกร้องเรียนว่ารัสเซียมีเป้าหมายจะกวาดล้างกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่เป็นปรปักษ์กับประธานาธิบดีอัสซาด