เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 มี.ค.2559) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำด่านตรวจในพื้นที่ชนบทรอบนอกของ จ.นราธิวาส ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจยานพาหนะและบุคคลที่สัญจรผ่านที่ตั้งฐานปฎิบัติการ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและป้องกันกลุ่มติดอาวุธที่อาจแฝงตัวเข้าโจมตีฐานที่ตั้ง หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธกว่า 40 คนเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ก่อนใช้เป็นที่มั่นโจมตีฐานปฎิบัติการทหารพรานเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2559 จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย
พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 และคณะทำงานเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบชายแดนใต้ เห็นว่าโรงพยาบาล โรงเรียน วัดและมัสยิดควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ได้รับการคุ้มครองตามหลักสากล จึงเรียกร้องไปยังภาครัฐและกลุ่มผู้คิดต่างให้ความสำคัญต่อพื้นที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์
เหตุยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นหนึ่งในเหตุความรุนแรงทั้งการซุ่มยิงและลอบวางระเบิดกว่า 20 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งตรงกับวันก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็น โดยนายตายูดิน อุสมาน นักวิชาการด้านสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏยะลา วิเคราะห์เหตุรุนแรงที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องว่าสืบเนื่องจากกรณีที่ภาครัฐได้ประกาศให้พื้นที่ อ.บาเจาะ และ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ปลอดเหตุรุนแรง ทำให้กลุ่มผู้คิดเห็นต่างก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพ
ขณะที่วันนี้ (15 มี.ค.2559) ผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จะประกอบพิธีละหมาดอายัติเพื่อให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ ขณะเดียวกันตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง รวมถึงประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดมีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ