วันนี้ (25 มี.ค. ) นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมผู้บริหาร กยศ. และองค์กรนายจ้าง ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน รวม 36 องค์กร ลงนามบันทึกความตกลงร่วมกันจะดำเนินการตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชน พนักงาน ลูกจ้างในองค์กร เป็นผู้ค้างชำระหนี้ กยศ. หรือไม่และยินยอมให้หักหนี้ค้างชำระผ่านบัญชีเงินเดือนได้เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ลดเบี้ยปรับถึงคืนเงินแล้วแต่กรณี โดยสามารถทำสัญญายินยอมให้หักบัญชีเงินเดือน ภายในวันที่ 30 ก.ย.2559
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังการลงนามวันนี้ น่าจะช่วยลดยอดหนี้คงค้างประมาณร้อยละ 70-80 จากปัจจุบันมีหน่วยงานองค์กรนายจ้างเข้าร่วมโครงการแล้ว 137 แห่ง จากเป้าหมาย 200 แห่ง พร้อมสั่ง กยศ.ศึกษาความเป็นไปได้ในการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นหลักทรัพย์ เพื่อลดการพึ่งพิงเงินงบประมาณ ก่อนให้นโยบายพร้อมปล่อยกู้นักศึกษา ในสายวิชาชีพที่ขาดแคลนและยอมปล่อยกู้ถึงหลักล้านก็ยอม โดยเฉพาะใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต เช่น นักบิน
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า มีแนวคิดประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยไม่รับต่ออายุบัตรประชาชนของผู้ค้างชำระหนี้ กยศ. ซึ่งกำลังศึกษาข้อกฎหมาย หลังพบหนี้เสียใน กยศ.มากกว่าร้อยละ 50 จึงต้องการกระตุ้นให้กู้กว่า 4 ล้านคน วงเงินกว่า 470,000 ล้านบาทคืนหนี้โดยเร็ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเร่งผลักดันความร่วมมือหักหนี้ผ่านบัญชีผู้ค้างชำระหนี้ กยศ.ให้เข้าร่วมโครงการนี้ให้ครบ 200 แห่งทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในหน่วยงานราชการ หลังพบว่ามีข้าราชการไม่น้อยกว่า 60,000 คน ค้างชำระหนี้ กยศ.