วันนี้ (28 มี.ค. 2559) นายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ปัจจุบัน มีประชาชนแจ้งความประสงค์เข้ากู้ในโครงการบ้านประชารัฐแล้ว 8,000 คน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 6,700 ล้านบาท และรอการอนุมัติสินเชื่อประมาณ 300 คน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 280 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปริมณฑลราคาประมาณ 1.2 แสนบาท ถึง 1.5 แสนบาท ทั้งนี้ คาดวงเงินในโครงการจะเต็มในเดือน เม.ย.-พ.ค. 2559 ซึ่งหากใกล้เต็มวงเงินปล่อยกู้ จะพิจารณาเสนอบอร์ดว่าจะขยายวงเงินปล่อยกู้เพิ่มอีกหรือไม่
นายฉัตรชัย กล่าวต่ออีกว่า ส่วนความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการโครงการบ้านประชารัฐ หรือพรี ไฟแนนซ์ วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลังเรียกผู้บริหารธนาคารที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย เข้าประชุมกำหนดกรอบพิจารณาการปล่อยสินเชื่อสัปดาห์นี้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความกังวลหากให้ธนาคารแต่ละแห่งปล่อยสินเชื่อโดยอิสระ แต่ไม่เชี่ยวชาญการปล่อยสินเชื่อลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมทั้งผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์สามารถขอกู้พร้อมกันทั้ง 3 ธนาคาร อาจกระทบเสถียรภาพในระบบสถาบันการเงินได้ จึงเตรียมกำหนดแนวทางการปล่อยสินเชื่อในโครงการให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะการกำหนดขนาดยูนิตโครงการ ทุนจดทะเบียน สิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ดิน
“แต่ระหว่างนี้ ธนาคารแต่ละแห่งสามารถหารือกับผู้ประกอบการที่สนใจประสงค์ขอกู้ เพื่อรับทราบแนวทางเบื้องต้นได้ ส่วน ธอส.คาดว่า หากสรุปหลักเกณฑ์ได้ชัดเจน จะรับเรื่องขอกู้ได้สัปดาห์หน้า และใช้เวลาพิจารณาอนุมัติ 2-3 เดือน ปัจจุบัน ธอส. ปล่อยกู้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างแฟลตในต่างจังหวัดประมาณ 7,000 คน”
สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ มีผู้ยื่นกู้โครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งผ่านการอนุมัติสินเชื่อเข้าทำสัญญากลุ่มแรก 5 ราย โดยผู้กู้โครงการบ้านประชารัฐส่วนหนึ่งระบุว่า ดีใจที่ได้เข้าโครงการ เพราะอัตราดอกเบี้ยโครงการ ถูกเท่ากับค่าเช่าที่พักในปัจจุบัน