วันนี้ (20 เม.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.เทพา จ.สงขลา หลังเหตุระเบิดหน้าร้านขายของชำละม่อมเจริญศิลป์ ม.5 ต.ตาแปด อ.เทพา เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 11 คน เมื่อเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้า พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบในรถจักรยานยนต์ ซึ่งแผ่นป้ายทะเบียนถูกขูดลบเลขออกไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อ 8 วันก่อน ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดหน้าสถานีรถไฟจะนะ อ.จะนะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งลักษณะของการก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกัน
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า เจ้าหน้าที่พบป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุแล้ว แต่ตัวเลขที่อยู่ในป้ายตัวกลางหายไป หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเพิ่มเติม
ขณะที่ในวันนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการหวาดวิตก หลายคนจึงยังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นายเจริญ ดวงมะลิ เจ้าของร้านขายของชำเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่นชายคนหนึ่งนำถุงสีดำมาวางหน้าร้านแล้ว ขับรถจักรยานยนต์ออกไปก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบระเบิดเพลิง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงเสียงระเบิดในรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ก่อนหน้านี้ก็ถูกจุดชนวนขึ้น สร้างความเสียหายจำนวนมาก
ด้านนางพา แก้วห่อทอง ที่ได้รับบาดแผลที่ขาขวา และข้าวของภายในบ้านเสียหายจากเหตุระเบิด ยังคงมีความหวาดหวั่น เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดระเบิดขึ้นที่นี่ ซึ่งหลายคนอยู่ระหว่างการออกกำลังกาย เด็กเล็กวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น จึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ด้าน พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อ.เทพา ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นคือ ด.ช.กูอาและ นิเต็ม อายุ 11 ขวบ เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เร่งนำตัวคนผิดมาลงโทษ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.เทพา จ.สงขลา และ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รวมถึงพื้นที่เชื่อมระหว่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจ.สงขลา เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำ เช่นเดียวกับที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่เพิ่มการตรวจสอบยานพาหนะในเส้นทางสายหลักและเส้นทางสายรองอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการนำรถที่ถูกโจรกรรมเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในเขตพื้นที่เมืองซ้ำรอยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อ.เทพา