วันนี้ ( 20 เม.ย.2559 ) นายสมบัติ ลีลาพตะ ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างร่างหนังสือ เพื่อเตรียมส่งไปธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงพฤติกรรม ของธนาคารกรุงเทพ ในฐานะผู้ค้ำประกันหลักทรัพย์ให้บริษัท ไทยทีวี ซึ่งยังไม่นำส่งหลักทรัพย์ค้ำประกันกว่า 1,700 ล้านบาท ให้กับ สำนักงาน กสทช. หลังจากครบกำหนดต้องจ่ายวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
บริษัท ไทยทีวี เป็นผู้ประกอบการที่ชนะประมูลทีวีดิจิทัล 2 ช่อง เมื่อปี 2555 ได้แก่ ช่องไทยทีวี และช่องโลก้าทีวี ซึ่งขณะนั้นได้นำหลักทรัพย์ไปวางค้ำประกันไว้กับธนาคารกรุงเทพต่อมาทั้งสองช่องต้องการยกเลิกประกอบกิจการในปี 2556 ทางสำนักงาน กสทช.จึงขอให้บริษัทจ่ายเงินประมูลที่ยังไม่ได้จ่ายรวมกว่า 1,634 ล้านบาท แต่บริษัทไทยทีวี ยื่นฟ้องศาลเมื่อปีนี้ เพื่อขอให้ธนาคารกรุงเทพระงับการจ่ายเงินค้ำประกันซึ่งศาลได้ยกคำร้อง
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือทวงหลักทรัพย์ค้ำประกันไปที่ธนาคารกรุงเทพ รวมดอกเบี้ยเป็นเงินรวมกว่า 1,700 ล้านบาท และครบกำหนดระยะเวลาที่ธนาคารกรุงเทพ ต้องนำส่งให้ กสทช. เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางธนาคารก็ไม่ได้นำส่ง
นายสมบัติ กล่าวว่า เหตุผลที่สำนักงาน กสทช.ต้องทำหนังสือแจ้งไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เพราะเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อให้รับทราบว่าทางธนาคารกรุงเทพ ไม่ได้ดำเนินการตามมาตรการการค้ำประกัน ซึ่งกสทช. ได้รับความเสียหายและต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเจรจากับธนาคารกรุงเทพ เพื่อส่งมอบหลักทรัพย์ให้กับ กสทช.
ขณะเดียวกันสิ่งที่ สำนักงาน กสทช.จะทำควบคู่ไปด้วย คือ การยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อฟ้องร้องธนาคารกรุงเทพ ขอให้นำจ่ายหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจาก กสทช.เอง ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติ หากยังไม่ได้รับเงิน หรือ หลักทรัพย์ที่เกิดจากเงินประมูลทีวีดิจิทัล โดยกระบวนการยื่นฟ้องต่อศาล และการส่งหนังสือไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้