กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินเพื่อตักน้ำในคลองชลประทาน ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อนำน้ำมาใช้ดับไฟที่เริ่มลุกลามเผาไหม้เขตป่าพรุโต๊ะแดง หลังไฟไหม้ป่าสงวนได้ขยายวงกว้างกินเนื้อที่เกือบ 2,000 ไร่ โดยปฎิบัติการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการดับไฟครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่ลงตักน้ำเป็นที่แคบ และปริมาณน้ำที่ตักมาดับไฟมีไม่มากนัก
เมื่อช่วงเช้านักบินใช้เฮลิคอปเตอร์ในการบินโปรยน้ำทั้งหมด 15 เที่ยว แต่ละเที่ยวสามารถบรรทุกน้ำได้ประมาณ 500 ลิตร แต่ปฎิบัติการครั้งนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการดับไฟในป่าที่ยังลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.2559) จะมีการขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวง แต่ฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อยเนื่องจากสภาพความชื้นในอากาศมีไม่เพียงพอ
ขณะที่การดับไฟในภาคพื้นดินวันนี้ เจ้าหน้าที่ระดมรถแบ๊คโฮเข้าขุดแนวคันดินเพื่อป้องกันไฟป่าไม่ให้ลุกลามเข้าสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านและชุมชน พร้อมขุดหาแหล่งน้ำมาดับไฟ โดยเฉพาะที่บ้านซรายอ ต.ปาเสมัส ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าจำนวนมาก แต่การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากดับได้เพียงแค่ระดับผิวดินเท่านั้นและไฟก็กลับมาลุกไหม้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่ากระแสลมที่พัดแรงทำให้เกิดไฟไหม้หนักเพิ่มเติมอีกหนึ่งจุดคือบริเวณบ้านลูโบ๊ะสามา หมู่ 8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดับไฟ
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.นราธิวาส ออกแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนใน 30 ชุมชนที่อยู่บริเวณรอบป่าพรุโต๊ะแดงที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากหมอกควันจากไฟป่า เช่นเดียวกับที่ อ.สุไหงโกลก ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีหมอกควันปกคลุมจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แจ้ง ปิดประตูหน้าต่างที่รับลม ซึ่งจะพัดเอาหมอกควันเข้ามาในบ้าน รวมถึงดื่มน้ำสะอาด ส่วนผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ควรอาศัยในบ้านและเตรียมอุปกรณ์ยาที่จำเป็น