ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 พ.ค.2559) มหาวิทยาลัยรังสิตได้ออกประกาศที่ พิเศษ/2559 ลงนามโดย นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี เรื่องยกเลิกการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาของวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์และเภสัชศาสตร์ (รอบที่ 2) ซึ่งมีการจัดสอบในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 7-8 พ.ค.2559 เนื่องจากพบว่ามีการทุจริตการสอบโดยมีหลักฐานอย่างชัดเจน โดยให้ผู้สมัครสอบทั้งหมดมาสอบคัดเลือกใหม่ในวันอังคารที่ 31 พ.ค. และ 1 มิ.ย.2559 เวลา สถานที่และห้องสอบเดิม
เวลาประมาณ 14.30 น.นายอาทิตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Arthit Ourairat ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมทุจริตการสอบที่เป็นสาเหตุของการประกาศยกเลิกการสอบในครั้งนี้ โดยระบุว่า "มีการทุจริตเป็นกระบวนการด้วยเครื่องอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ และทราบว่าผู้หากินทางกวดวิชาสอบเข้าและรับประกันผล เรียกร้องเงินเข้าแพทย์ถึง 800,000 บาท ถ้าไม่ได้ คืนเงิน"
นายอาทิตย์ยังได้เผยแพร่ภาพอุปกรณ์ที่ถูกอ้างว่าใช้สำหรับการทุจริตการสอบ โดยเป็นแว่นตาที่มีกล้องขนาดเล็กติดอยู่ และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ลักษณะเป็นนาฬิกาข้อมือที่คาดว่าใช้ส่งสัญญาณหรือรหัสเพื่อใช้ในการทุจริตสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักฐานที่พบบนนาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ทวอชเป็นลักษณะของการเฉลยข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 40 ข้อ ด้วยรหัส 1 ถึง 4 แทนการเฉลยคำตอบข้อ "ก" ถึง "ง" ซึ่งเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรังสิตสันนิษฐานว่า ขบวนการทุจริตสอบจะใช้วิธีซ่อนกล้องขนาดเล็กไว้ที่ขาแว่นตา เพื่อส่องดูข้อสอบ ก่อนที่จะส่งไปยังสถาบันกวดวิชาประมวลคำตอบส่งกลับมายังผู้สอบ
นักเรียนที่เข้าสอบคณะเภสัชศาสตร์เปิดเผยกับ "ไทยพีบีเอส" ว่า เจ้าหน้าที่จับทุจริตการสอบครั้งนี้ได้ที่ห้องสอบอาคาร 11 ในช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ค.แต่ยังให้ดำเนินการสอบต่อไปในช่วงบ่าย โดยห้ามผู้เข้าสอบนำอุปกรณ์ทุกชนิดเข้าห้องสอบ เช่น ปากกา ดินสอกด นาฬิกา สร้อยคอ สร้อยข้อมือ อนุญาตให้ใช้เพียงดินสอธรรมดาเท่านั้น และผู้เข้าสอบทุกคนต้องถูกค้นตัว แม้แต่ยางรัดผมก็ถูกตรวจ
ต่อมา ผศ.นเรฎฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิตได้ให้สัมภาษณ์ "ไทยพีบีเอส" ทางโทรศัพท์ว่าจากการสอบสวนเด็กที่ทุจริตและการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ เชื่อว่ากรณีนี้มีการทำอย่างเป็นขบวนการ ขณะนี้ได้ขอให้ตำรวจมาร่วมสอบสวนด้วยแล้ว และทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินคดีกับสถาบันกวดวิชาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบในครั้งนี้ทั้งทางแพ่งและทางอาญาอย่างถึงที่สุด