ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 16 พ.ค.2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาเจาะ ร่วมกันทลายร้านขายสัตว์ป่าใน อ.ยี่งอ โดยพบสัตว์ป่ามากมายและหนึ่งในนั้นมีลูกนกเงือกหัวแรดในโพรงหมายเลข 29 ด้วย
ร.ต.ต.พอเชษฐ์ เพชรเรือนทอง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยป่าไม้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ขยายผลมาจากการจับกุมนายเชง ขาเด ชาว อ.บาเจาะ พร้อมของกลางเป็นนกกก 1 ตัว ผู้ต้องหารับสารภาพว่านำออกมาจากป่าเทือกเขาบูโด จุดที่ทีมนักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ามีนกเงือกหัวแรดหายไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2559 โดยขยายผลพบร้านรับซื้อของป่า จึงจับกุมนายมะฮาเยง ลาเต๊ะ พร้อมของกลางสัตว์ป่า 21 ตัว คือ นกเงือกหัวแรด 1 ตัว, แมวดาว 1 ตัว, ลูกค่างแว่นถิ่นใต้ 3 ตัว, นกกางเขนดง 12 ตัว, นกกาน้ำเล็ก 1 ตัว, นกขมิ้นหัวดำเล็ก 1 ตัวและนกเค้าแมวป่าหลังจุด 1 ตัว
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ซื้อนกเงือกหัวแรดมาจากผู้อื่นในราคา 3,200 บาท เมื่อ 6 วันที่แล้ว เป็นไปได้ว่ามาจากจุดที่หายไป แต่ต้องขยายผลไปยังเครือข่ายค้าสัตว์ป่า ส่วนสัตว์ป่าของกลางจะนำไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ อ.ตากใบ
น.ส.นูรีฮัน ดะอูลี ผู้ช่วยนักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่านกเงือกหัวแรดที่ยึดมาได้ เป็นลูกนกเงือกที่หายจากโพรงที่ 29 ที่ทีมนักวิจัยติดตามอยู่ หากเป็นไปได้เสนอให้เจ้าหน้าที่นำ ลูกนกเงือกกลับไปที่โพรง เพื่อติดตามพฤติกรรมจากพ่อแม่และจะได้ให้นกเงือกกลับสู่ธรรมชาติ เพราะเป็นสัตว์ป่าสำคัญ
ทั้งนี้ ลูกนกเงือกหัวแรดถูกกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่าขโมยไปจากโพรงหมายเลข 29 บนเทือกเขาบูโดในเขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งคณะนักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เดินทางเข้าไปติดตามดูการเจริญเติบโตของลูกนกเงือกดังกล่าว แต่กลับพบความผิดปกติ จึงได้สำรวจบริเวณโคนต้นไม้ที่นกเงือกทำรังอยู่และพบร่องรอยของผู้ก่อเหตุปีนเข้าไปล้วงขโมยลูกนกเงือก นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์สำหรับจับนกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง