วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเจอสถานการณ์กดดัน หลังแพ้เป็นครั้งที่ 3 ด้วยคะแนน 2-3 เซต จากการเจอกับญี่ปุ่นในศึกรอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ที่ประเทศญี่ปุ่น เท่ากับเกือบจะหมดโอกาสลุ้นตั๋วไปโอลิมปิก ในเกมนี้มีจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างข้อกังขาในการตัดสินของกรรมการ ซึ่งทำให้ไทยโดนใบแดง เสียแต้มให้ญี่ปุ่นถึง 2 ครั้ง
วันนี้ (18 พ.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยต้องชนะสถานเดียว เพื่อโอกาสลุ้นคว้าสิทธิ์เป็น 1 ใน 4 ทีม ไปโอลิมปิกที่บราซิล โดยผลการแข่งขันเซตเเรกทีมไทยเริ่มต้นได้ดีกว่าชนะไปก่อน 25-20 คะแนน เซตที่ 2 ไทยแพ้ 23-25 เซตที่ 3 ไทยกลับมาชนะ 25-23 ก่อนจะแพ้ในเซตที่ 4 ด้วยคะแนน 23-25
ส่วนในเซตตัดสิน ไทยนำถึง 12-6 คะแนน แต่ก็พลาดโดนไล่ตีตื้นเป็น 12-8 ในขณะที่โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กดสัญญาณขอเปลี่ยนตัวแต่สัญญาณไม่ดัง และถูกปฎิเสธจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ ขณะที่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว เข้าไปประท้วงผู้ตัดสินอีกครั้งทำให้โดนใบแดง กลายเป็นแต้มให้ญี่ปุ่นตามมาเป็น 12-9 คะแนน ตามกติกาการแข่งขัน
บรรยากาศทีมไทยตึงเครียดยิ่งขึ้นจนเป็นฝ่ายไล่ตาม 12-13 คะแนน จากนั้นโค้ชอ๊อดขอเวลานอกอีกครั้ง แต่เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการแสดงสัญญาณของเปลี่ยนตัวไม่ดัง กรรมการจึงไม่ให้เปลี่ยนตัวและทำให้ทีมไทยเข้าไปประท้วงอีกรอบจนถูกลงโทษ กลายเป็นแต้มให้ญี่ปุ่นนำไทย 14-12 ก่อนจะชนะไทยไปด้วยคะแนน 15-13 การที่ไทยแพ้ญี่ปุ่นหวุดหวิด 2-3 เซต ทำให้เก็บคะแนนได้เพียงแต้มเดียวจากเกมนี้ ส่งผลให้โอกาสลุ้นตั๋วไปโอลิมปิกแทบจะไม่มี
หลังการแข่งขันโค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เปิดเผยว่า รู้สึกกังขากับการตัดสินในเกมแข่งขัน ซึ่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนใบแดงในการแข่งขัน
ขณะนี้ ไทยมีเพียง 4 แต้มจาก 4 เกม โดยเหลือการแข่งขันอีก 3 เกม เท่านั้น ซึ่งโอกาสเป็น 1 ใน 4 ทีม ในการคว้าตั๋วโอลิมปิกค่อนข้างริบหรี่ เพราะต้องการแต้มอย่างน้อย 15 คะแนนในการการันตีตั๋วไปบราซิล