สืบเนื่องจากการรายงานข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของไทยพีบีเอสว่าไม่เหมาะสมและอาจขัดต่อพรบ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ (ส.ส.ท.)
ส.ส.ท.ขอชี้แจงการทำหน้าที่ในวันดังกล่าวดังนี้
1. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เริ่มรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงทันข่าว เวลา 15.00 น. ใช้เวลา 4.10 นาที หลังจากนั้นได้ตัดเข้ารายงานข่าวด่วนอีก 2 ครั้ง ช่วงเวลา 15.36 น. ใช้เวลา 6 นาที และช่วงเวลา 15.45 น.ใช้เวลา 8 นาที
2. ต่อมาสำนักข่าวได้ประเมินสถานการณ์ว่า มีความพยายามจะจับกุมตัวผู้ต้องหาเพื่อยุติเหตุการณ์โดยเร็ว สำนักข่าวจึงได้ขออนุมัติรองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.เพื่อถ่ายทอดสด โดยที่รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ได้กำชับให้ระมัดระวังการนำเสนอไม่ให้มีภาพความรุนแรง เช่น ภาพผู้ต้องหาถือปืน รวมทั้งให้หลีกเลี่ยงการรายงานภาพผู้ต้องหา
การรายงานสดช่วงนี้ เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ใช้เวลาประมาณ 1.02 ชั่วโมง และมีการรายงานทาง Facebook Live ในช่วงเวลาเดียวกันใช้เวลาประมาณ 51 นาที
การรายงานสดเหตุการณ์นี้ตัดสินใจบนเหตุผลว่า เป็นการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะ โดยที่ผู้ปฏิบัติงานได้ถูกกำชับให้ระมัดระวังมิให้เผยแพร่ภาพความรุนแรงและละเมิดสิทธิผู้ต้องหา และไม่ได้มีเจตนาต้องการถ่ายทอดเหตุการณ์ผู้ต้องหาพยายามฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามในระหว่างการรายงานสดได้มีการสัมภาษณ์นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จิตแพทย์เพื่อหาทางออกเหตุการณ์นี้อย่างสันติวิธี
อย่างไรก็ตามเมื่อเหตุการณ์มีแนวโน้มยืดเยื้อ อาจเกิดเหตุรุนแรงที่ไม่คาดคิด รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ก็ได้สั่งการให้ยุติการถ่ายทอดสดเมื่อเวลาประมาณ 17.02 น.
คณะผู้บริหาร ส.ส.ท.มีความตระหนักและน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ และขออภัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจต่อสาธารณะ
บทเรียนอันมีค่าจากกรณีนี้ นอกจากจากการขออภัยต่อสาธารณะแล้ว ฝ่ายบริหารได้เน้นย้ำในแนวทางการรายงานข่าวเหตุการณ์รุนแรงหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรง ให้มีความระมัดระวังอยู่ในกรอบจริยธรรมและกฏหมาย รวมทั้งจะเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษหากจำเป็นต้องมีการรายงานข่าวเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่มีการออกอากาศรายการที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน ส.ส.ท. ขอยืนยันว่า จะยึดมั่นในหลักจริยธรรมของสื่อสาธารณะ และพร้อมจะเป็นกลไกหนึ่งของความร่วมมือพัฒนามาตรฐานวิชาชีพสื่อในสังคมต่อไป อีกทั้งจะมีการประชุมถอดบทเรียนการรายงานข่าวเหตุการณ์นี้ เพื่อให้การทำงานมีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น