ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์วันนี้ (31 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ถึงการจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าเหตุที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่เข้าไปจับกุมเพราะเกรงว่าจะมีการเผชิญหน้าและเกิดความรุนแรงขึ้น
"ถ้าดีเอสไอเอากำลังเข้าไป ตำรวจเข้าไป (ภายในวัดพระธรรมกาย) จะเกิดอะไรขึ้น คิดสิ ถ้ามีใครสักคนเอาอาวุธปืนมายิงใส่แต่ละข้างจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเอากำลังทหารและตำรวจเข้าไปจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีคนยิงเข้ามา ทางนี้ก็ต้องยิงป้องกันตัว แล้วจะไปโดนคนที่สวดมนต์อยู่หรือเปล่า อยากให้เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ถ้าอยากก็กดดันเจ้าหน้าที่ไปเรื่อยๆ ว่าไม่จับกุมสักที ถ้าไม่จับกุมจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กฎหมายอาญามาตรา 157 ผมไม่กลัวหรอก เพราะกฎหมายมีเขียนไว้แล้วว่า ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นว่าถ้าการปฏิบัติจะทำให้สถานการณ์บานปลายก็รอไปก่อนได้ จับวันนี้จับวันหน้าก็เหมือนกันล่ะ บางกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยสถานการณ์ภายใน" นายกฯ ระบุ
"แล้วผมถามว่ามันถูกต้องมั้ย ที่มีการปิดประตู เอาลวดหนามมาล้อม เหตุการณ์นี้เหมือนอะไร เหมือนเหตุการณ์ (ชุมนุมทางการเมือง) ที่สวนลุมพินีมั้ย คิดสิ เอาอดีตมาเรียนรู้บ้างสิ ทหารก็ต้องไปดูแล แล้วก็มีการยิง ใช้อาวุธใส่มาแล้วจะให้ทำยังไง ตายกันไปเยอะแยะแล้วยังไม่พออีกเหรอ...ถ้าเขาควบคุมตัวหรือมอบตัวตั้งแต่แรกก็จบไปแล้ว คดีก็ยังไม่สิ้นสุดว่าผิดหรือถูก ก็ไปพิสูจน์ทราบก็แค่นั้น ไม่ได้รังแกพระ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะจับกุมพระธัมมชโยได้ นายกฯ แสดงอาการไม่พอใจแล้วตอบว่า "ชาตินี้จับได้แน่นอน" และย้ำว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ตลอดเวลาแต่เหตุที่ยังไม่ปฏิบัติการจับกุมเพราะเหตุผล ความจำเป็นที่ไม่อยากให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย
อ่าน "ลำดับเหตุการณ์: 2 เดือน ดีเอสไอ vs พระธัมมชโย" ได้ ที่นี่