วันนี้ ( 2 มิ.ย.2559) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ย้ายฐานปฏิบัติการฝนหลวงจากจังหวัดพิษณุโลก มาไว้ที่จังหวัดตากทั้งหมด เพื่อเติมน้ำลงในเขื่อนภูมิพล หลังจากปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลเหลือน้ำใช้การเพียง 214 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของความจุอ่าง และยังไม่มีน้ำเข้ามาเติมเขื่อน แม้จะมีฝนตกมาในระยะนี้
ปฏิบัติการทำฝนหลวง
ด้านนายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สั่งการให้นำเครื่องบินทำฝนหลวง รวม 11 ลำ ย้ายฐานปฏิบัติการจากจังหวัดพิษณุโลกไปจังหวัดตาก โดยได้เริ่มปฏิบัติการทำฝนหลวงเติมเขื่อนภูมิพลตั้งแต่เมื่อวานนี้(1 มิ.ย.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำจะทำให้เกิดฝนตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และมีน้ำไหลลงเขื่อนมากขึ้น นอกจากนี้กรมจะปรับย้ายฐานฝนหลวงจากจังหวัดอุดรธานีไปจังหวัดอุบลราชธานี และจากจังหวัดจันทบุรีไปจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในภาวะฝนทิ้งช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน ให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย ปัจจุบันทั้ง 4 เขื่อน มีปริมาณน้ำรวมกัน 8,080 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ รวมกันมีน้ำใช้การได้ประมาณ 1,384 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนการระบายน้ำยังคงการระบายน้ำลงมารวมกันประมาณวันละ18 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก ส่วนภาคการเกษตรนั้น ขอให้รอฝนตกลงมาอย่างสม่ำเสมอมากกว่านี้ จึงค่อยลงมือทำการเพาะปลูกพืชฤดูฝน