ภายหลังจากที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าควบคุมพื้นที่จัดงานแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ของกลุ่ม นปช. ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) โดยอ้างว่าเป็นกิจกรรมที่ขัดคำสั่ง คสช.เรื่องการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน เจ้าหน้าที่ได้ปฏฺิบัติการตรวจยึดสัญลักษณ์ศูนย์ปราบโกงฯ ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ล่าสุด ทหารพร้อมด้วย ตำรวจและฝ่ายปกครอง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 328 หมู่ 7บ้านร่องตาที ต.ลานสัก หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้เข้าไปเคลื่อนไหวตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ จากการตรวจสอบพบรถเก๋งทะเบียนอุทัยธานี ของนายนภกฤช ทวีการไถ อายุ 48 ปี ชาวบ้าน ต.สว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี จอดอยู่หน้าบ้าน เมื่อตรวจค้นภายในรถ พบป้ายขนาดใหญ่ 4 เมตร จำนวน 1 ป้าย ขนาดเล็กอีก 2 ป้าย และเสื้อยืดอีก 70 ตัว จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตักเตือน นายนภกฤช ไม่ให้เคลื่อนไหวลักษณะนี้ซ้ำอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดป้ายและเสื้อยืดไป โดยแจ้งนายนภกฤชว่าจะคืนให้หลังจากการออกเสียงประชามติวันที่ 7 ส.ค.2559 ซึ่งนายนภกฤช รับปากว่าจะไม่เคลื่อนไหวลักษณะนี้อีก
ขณะที่ทีมโฆษก คสช.ระบุว่าไม่ให้น้ำหนักกับกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ประกาศว่าจะเปลี่ยนวิธีการดำเนินการของศูนย์ปราบโกงประชามติ มาเป็นการเคลื่อนไหวทางสื่อสังคมออนไลน์
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่าทั้ง คสช.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ติดตามเฝ้าดูและตรวจสอบการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อเคลื่อนไหวเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึงหากไม่ได้มีการยุยงปลุกปั่นก็ไม่เป็นปัญหา
อย่างไรก็ตาม คสช.ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของ นปข.มาก เพราะทราบดีว่า นปช.ต้องการสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในสังคม หาก คสช.เคลื่อนไหวตาม ก็จะไปช่วยสนับสนุนให้เกิดกระแส พ.อ.ปิยพงศ์กล่าว
ส่วนที่แกนนำ นปช.โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ว่า เป็นคนกลับกลอกเรื่องการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามตินั้น เป็นความพยายามสร้างกระแส จับบางคำพูดของนายกฯไปบืดเบือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจว่า คสช.ต้องรักษาบรรยากาศความสงบสุขของบ้านเมือง พร้อมยืนยันว่าการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.2559 จะยังคงมีอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่ผู้ที่เห็นต่างพยายามออกข่าวให้เกิดกระแส