วันนี้ (23 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีแนวทางให้อัยการสูงสุดดำเนินการเพื่อเรียกเงินเยียวยาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้กำลังศึกษาคำพิพากษาของศาลอังกฤษที่ให้ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 395 ล้านบาท ของบริษัทผู้ผลิต ว่าจะสามารถขอเฉลี่ยทรัพย์ตามคำสั่งศาล หรือ ฟ้องแพ่ง เพื่อนำเงินมาเยียวยาให้กับผู้ซื้อที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างไร ก่อนจะนัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม รวมถึงหน่วยงานที่จัดซื้อ จีที 200 แต่กรณีนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเรื่องทุจริตจัดซื้อที่ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเบื้องต้น เชื่อว่ากรณีนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องรับเป็นคดีพิเศษ ส่วนกรณีที่การจัดซื้อมีคณะกรรมการมาตรฐานยุทโธปกรณ์ แต่กลับได้ของไม่มีคุณภาพนั้นเป็นอีกประเด็นที่จะต้องมีการตรวจสอบ
มีรายงานว่าวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมฝ่ายกฎหมายของเหล่าทัพ เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังหน่วยงานในกองทัพที่จัดซื้อ จีที 200 ได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฟ้องแพ่งและอาญากับตัวแทนบริษัทผู้ผลิต
ขณะที่นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท.ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวว่า คาดว่า สตง.จะส่งข้อมูลการตรวจสอบการจัดซื้อ จีที 200 มา ให้ ศอตช.ได้ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พิจารณา