วันนี้ (3 ก.ค. 2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายครั้งแรกในเขตคาราดา ใจกลางกรุงแบกแดดของอิรัก ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิงที่มีผู้คนพลุกพล่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 200 คน ส่วนอาคารที่อยู่ในรัศมีแรงระเบิดเสียหาย 4 หลัง
ต่อมาเกิดเหตุระเบิดครั้งที่ 2 ในตลาดแห่งหนึ่งของย่านอัล-ชาอับ ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10 คน
ด้าน กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ออกแถลงการณ์ทางออนไลน์อ้างความรับผิดชอบเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว และระบุว่าเหตุระเบิดในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มมุสลิมนิกายชีอะห์
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ขณะที่ นายไฮเดอร์ อัล อะบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่แสดงความไม่พอใจ หลังรัฐบาลอิรักไม่สามารถป้องกันเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้งในปีนี้ (2559) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินว่า เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวอิรักเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายและความขัดแย้งรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ 662 คน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,457 คน โดยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในเขตคาราดาครั้งนี้ ถือว่าเป็นเหตุโจมตีกรุงแบกแดดครั้งร้ายแรงที่สุดในปีนี้ (2559)