จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณชุมชนหัวถนน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งปรากฏภาพรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น 4 ประตูสีบรอนซ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลังผู้ก่อเหตุขับรถกระบะคันดังกล่าว นำรถยนต์ประกอบระเบิดไปก่อเหตุรุนแรง ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ปีที่ผ่านมา ก่อนที่รถกระบะอีซูซุจะถูกนำกลับมาประกอบระเบิดก่อเหตุรุนแรงใกล้ฐานปฎิบัติการเกาะหม้อแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.2559)
ส.ต.ท.สุนันต์ คล้ายอักษร ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เล่าถึงวินาทีที่ผู้ก่อเหตุขับรถกระบะประกอบระเบิดมาจอดใกล้ฐานปฎิบัติการเกาะหม้อแกง ก่อนจะมีผู้ขับขี่รถยนต์อีกคันหนึ่งมารับและหลบหนีไป หลังจากนั้นไม่นานเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 3 นาย
ทั้งนี้ เหตุลอบวางระเบิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกาะสมุย มีรถยนต์ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 4 คัน คันแรกเป็นรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าซึ่งถูกปล้นมาจากองค์การบริหารส่วนตำบลละแอ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ปีที่แล้ว (2558) ก่อนจะนำประกอบระเบิดในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล คันที่ 2 คือ รถยนต์เก๋งยื่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนเทาที่ใช้นำรถประกอบระเบิด ซึ่งถูกจอดทิ้งในสวนยางพาราริมถนนสายป่าบอน-หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังร่วมก่อเหตุ
คันที่ 3 คือ รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นไตตันที่นำมาใช้ประกอบระเบิดรถยนต์ซึ่งถูกนำมาก่อเหตุรุนแรงใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา และสุดท้าย คือรถยนต์ยื่อห้ออีซีซุ สีบรอนซ์ ที่ใช้นำรถยนต์ประกอบระเบิดบนเกาะสมุย ถูกกลับนำมาใช้ก่อเหตุรุนแรงที่ฐานปฎิบัติการเกาะหม้อแกง จึงปฎิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มก่อเหตุความรุนแรงใน 3 จังหวัดเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มลอบวางระเบิดในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกาะสมุย
ความเชื่อมโยงของเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเหตุรุนแรงในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกาะสมุย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภาคใต้ เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย