วันนี้ (15 ก.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส แถลงว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นในเมืองนีซ เมืองตากอากาศชื่อดังของฝรั่งเศส เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการก่อการร้าย ซึ่งรัฐบาลจะขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้กำลังพลสำรองเข้ามาช่วยปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 80 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บนับร้อยคน ในจำนวนนี้ 20 คน อาการสาหัส จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งนายออลลองด์ ยืนยันว่า ฝรั่งเศสจะเพิ่มบทบาทในปฏิบัติการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายทั้งในอิรักและซีเรีย
เหตุการณ์โจมตีในฝรั่งเศสครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในเมืองนีซ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันฉลองวันชาติ ในขณะที่ประชาชนกำลังทยอยเดินทางกลับ หลังชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟ มีคนขับรถบรรทุก จงใจขับรถพุ่งใส่ฝูงชนบนถนนเดส ซองเกรส์ ซึ่งเป็นถนนเลียบชาดหาดชื่อดังของเมืองนีซ โดยรถบรรทุกแล่นฝ่าเข้าไปในฝูงชนเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุได้ยิงปืนใส่คนบนท้องถนนด้วย ก่อนที่จะถูกตำรวจระดมยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้นมีรายงานว่าตำรวจพบปืนและระเบิดบนรถบรรทุกคันดังกล่าว
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งว่าขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงปารีสของฝรั่งเศส กำลังตรวจสอบว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากการโจมตีในครั้งนี้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ผู้นำอาเซม-ยูเอ็นประณามเหตุโจมตีเมืองนีซ หนุนฝรั่งเศสต่อต้านก่อการร้าย
โชเฟอร์คลั่งซิ่งรถบรรทุกพุ่งชนคนฉลองวันชาติฝรั่งเศส ตายกว่า 70 คน จนมุมตร.ยิงดับ