เป็นครั้งแรกที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร สาธิตการใช้งานเรือผิวน้ำขับเคลื่อนด้วยกำลังลมหรือแอร์โบ๊ต หลังจากจอดไว้ที่สถานีดับเพลิงสามเสน เพื่อรอการตรวจรับนานกว่า 2 เดือน การจัดซื้อเรือแอร์โบ๊ตจำนวน 4 ลำ มูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อนำมาใช้ในพื้นที่คูคลอง และอาคารบ้านเรือนริมแม่น้ำในจุดที่รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง
เรือแอร์โบ๊ตทั้ง 4 ลำ จะกระจายไปยังกองอำนวยการ สปภ. กทม. สถานีดับเพลิงดาวคะนอง สถานีดับเพลิงสามเสน และสถานีดับเพลิงลาดกระบัง แม้การสาธิตในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ (22 ก.ค.2559) จะใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังมีข้อกังวลจากนักวิชาการเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้งาน
จากการร่วมสังเกตการณ์ครั้งนี้พบว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 10 นาที เคลื่อนย้ายเรือแอร์โบ๊ตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเครื่องสูบน้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเรือแอร์โบ๊ต มีน้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม นอกจากนี้ ระหว่างการทดสอบยังพบว่าเครื่องยนต์มีเสียงดัง ซึ่งตัวแทนบริษัทยอมรับว่าระหว่างการใช้งานเรือดังกล่าวอาจมีเสียงดัง และใบพัดอาจทำให้เกิดกระแสลมแรงได้บ้าง
เรือแอร์โบ๊ตจำนวน 4 ลำ จัดซื้อในสมัยที่ พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมื่อปี 2558 โดยเป็นอุปกรณ์ดับเพลิงชนิดใหม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ที่ถูกตรวจสอบการทุจริตและคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว