ทางการท้องถิ่นรายงานว่า กระแสน้ำที่เชี่ยวได้สร้างความเสียหายให้กับถนนถึง 99 จุด ทำให้ต้องระดมกำลังทหารมากกว่า 60 นายและเครื่องมือหนักลงพื้นที่เพื่อซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้
ข้อมูลจากทางการระบุว่า อุทกภัยในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับโรงเรียน 16 แห่ง โรงพยาบาล 5 แห่งและวัดอีก 8 แห่ง ทั้งนี้ปริมาณน้ำฝนที่ตกในทิเบต ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีปริมาณมากกว่าปกติถึงร้อยละ 41
ขณะที่ประเทศเนปาลก็ประสบอุทกภัยเช่นกัน โดยมีรายงานว่าเหตุน้ำท่วมทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 60 คน ในระยะเวลาเพียง 2 วัน ส่วนในอินเดียหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันเช่นกัน
ส่งผลให้หมู่บ้านหลายร้อยแห่งจมอยู่ใต้น้ำและมีประชาชนประมาณ 1.6 ล้านคน ได้รับผลกระทบ อุทกภัยดังกล่าวเป็นผลมาจากฤดูมรสุมที่เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนของทุกปี
ในปีนี้ปริมาณน้ำฝนในอินเดียมากกว่าปกติประมาณร้อยละ 4 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำพรหมบุตรและแม่น้ำสาขาเอ่อท้นฝั่งเข้าท่วมพื้นที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งหมดในรัฐอัสสัม เช่นเดียวกับรัฐพิหารที่ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อท้นฝั่งเช่นกัน รัฐบาลท้องถิ่นจึงเตือนประชาชนให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง
